ในเขตเมืองโคจิหลังจาก 2 ทุ่มแล้วจะไปไหนดีนะ? วัฒนธรรมการใช้ชีวิตกลางคืนที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุด

วัฒนธรรมงานเลี้ยงของโคจิ สามารถสืบย้อนไปถึง 1 พันกว่าปีก่อน ประมาณช่วง พ.ศ.1478 จากคำบรรยายที่เกี่ยวข้องกับงานเลี้ยงและการดื่มสุราของนักกวีในยุคสมัยเฮอัน "คิโนะ สึระยุคิ" ใน "บันทึกประจำวันโทะสะ" สามารถเห็นได้ว่าความชื่นชอบในสุราเลิศรสและงานเลี้ยงของชาวโทะสะนั้นเกินกว่าพันปีแล้ว

"วัฒนธรรมแขก (โอเคียวคุ)" ที่เป็นเอกลักษณ์จึงได้ถือกำเนิดขึ้น ปัจจุบันในงานมงคลสมรสหรืองานศพของโคจิยังคงจัด "กิจกรรมเลี้ยงแขก" เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดี

และแล้ว ในงานเลี้ยงอาหารและสุราเลิศรสของชาวโคจิ นอกจาก "อาหารซะวะจิ" อาหารจานรวมที่จัดรวมอาหารท้องถิ่นโคจิที่แสนอร่อยต่าง ๆ แล้ว วิธีการดื่มสุรานั้นมีความพิเศษยิ่งกว่า นอกจากวิธีการชนแก้ว "การส่งแก้ว การคืนแก้ว" เพื่อสร้างความใกล้ชิดซึ่งกันและกันอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังมีเกมในงานเลี้ยงสุรารูปแบบต่าง ๆ เช่น "แก้วเบะคุ" "เกมหมัดตะเกียบ" "คิคุโนะฮานะ" ที่มีไว้สร้างบรรยากาศ เป็นความโดดเด่นที่มีเสน่ห์อย่างยิ่งในวัฒนธรรมงานเลี้ยงของโคจิ

โดยทั่วไปถนนคนเดินท้องถิ่นของญี่ปุ่นจะปิดค่อนข้างเร็ว แต่ "ตลาดฮิโรเมะ" ที่อยู่ในถนนคนเดินของเมืองโอบิยามะเมืองโคจิ กลับยิ่งดึกยิ่งคึกคัก เป็นทางเลือกที่ดีเมื่อต้องการชิมอาหารแสนอร่อยของโคจิและสัมผัสบรรยากาศแสนสนุกของโคจิ

ภายในตลาดฮิโรเมะมีร้านค้าประจำประมาณ 65 ร้าน สามารถลองชิมอาหารเลิศรสในทุกทิศของจังหวัดโคจิ เช่น อาหารที่เป็นจิตวิญญาณของจังหวัดโคจิ "ปลาโอย่าง" วาคิวในฝัน "เนื้อวัวโทะสะอะกะอุชิ" และยังมีมากมาย เช่น อาหารพื้นเมืองของจังหวัดโคจิ อาหารจีน อาหารฝรั่ง ของหวาน อาหารทานเล่น อาหารปรุงสำเร็จ ของฝากที่ระลึกและของฝากพื้นเมือง แถมยังสามารถชิม "สาเกญี่ปุ่นจากโรงกลั่นเหล้าสาเก 18 โคจิ" นอกจากบางร้านค้าที่จะมีพื้นที่นั่งที่เป็นของตนเองแล้ว ที่เหลือส่วนใหญ่จะเป็นโซนรวมที่คล้ายกับลานซุ้มอาหาร หลังจากหาที่นั่งได้แล้วก็สามารถสำรวจอาหารและสุรารสชาติอันยอดเยี่ยมจากทุกทิศในโคจิ

ในตลาดฮิโรเมะที่คล้ายกับงานเลี้ยงอลังการแห่งนี้ ไม่เพียงเป็นแค่สถานที่ยอดเยี่ยมในเรื่องอาหารแสนอร่อยสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นทางเลือกอันดับในการรวมตัวกันสำหรับชาวจังหวัด ภายในสถานที่ได้ยินเสียงหัวเราะเฮฮาไม่ขาดช่วงตลอด 4 ฤดูทั้งปี ขณะที่ชิมอาหารเลิศรส คุณยังสามารถสัมผัสกับความเป็นมิตรของคนโคจิ เป็นสถานที่ที่สามารถสื่อสารและผูกมิตรภาพกับคนมากมายได้อย่างง่ายดาย

วัตถุประสงค์ในการเลี้ยงสังสรรค์ของคนญี่ปุ่น ไม่เพียงแค่การรับประทานอาหารเท่านั้น แต่ทำเพื่อการดื่มและเปิดใจพูดคุย ดังนั้นหลังมื้ออาหารมักจะตามมาด้วยวัฒนธรรมสังสรรค์รอบที่ 2 และรอบที่ 3 สุดท้ายยังมี "อาหารชิเมะ (〆อาหาร)" ที่เป็นการปิดท้ายอาหารมื้อเย็นทั้งหมด

ยะเทอิของโคจิ (ร้านริมถนน) ไม่เพียงแค่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการสังสรรค์ต่อแล้ว อาหารขึ้นชื่อ "เกี๊ยวยะเทอิ" ยังเป็นอาหารชิเมะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในโคจิ
ยิ่งดึกเสียงผู้คนยิ่งคึกครื้น แผงขายมากมายจะมีจำหน่ายเกี๊ยวทอดที่แสนอร่อย ผิวนอกที่ทอดกรอบสีเหลืองทอง ไส้ในที่มีรสชาติละเอียดอ่อน ควบคู่ไปกับสุราอีก 1 ขวด รับรองได้เลยว่าจะปิดงานสังสรรค์ต่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ต้นตำรับของเกี๊ยวยะเทอิ "ยะเทอิ ยุสุเบอิ" ที่เปิดกิจการมาแล้วกว่า 50 ปีนั้น ถือว่ามีชื่อเสียงมากที่สุด และอีกหนึ่งอาหารชิเมะสุดคลาสสิคที่ได้รับความนิยมคือ "ราเม็ง" ในแต่ละแผงอาหารล้วนมีจำหน่ายราเม็งที่มีรสชาติที่ไม่ซ้ำใคร และยังมีโอเด้งที่ร้อนซู่ซ่าที่สามารถพบเห็นได้บ่อยในละครญี่ปุ่น รอให้คุณมาสำรวจด้วยตนเองทั้งหมด

โคจินอกจากมีฉายา "อาณาจักรนักดื่มสุรา" แล้ว ด้วยร้านกาแฟและร้านดื่มชาเฉลี่ย 155 ร้านต่อทุกแสนคน สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศถึง 3 เท่า จนทำให้ฉายา "อาณาจักรดื่มชา" เป็นที่รู้จักไปทั่ว และแล้ว "วัฒนธรรมดื่มชา" ของโคจิ ไม่เพียงแต่เป็นที่นิยมในช่วงกลางวันเท่านั้น แม้ในยามกลางคืนก็เป็นส่วนที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ของหวานและเครื่องดื่มชาและกาแฟ เหมาะกับการเป็นอาหารชิเมะ" อย่างไม่คาดคิด "ร้านกาแฟกลางคืน" เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับงานสังสรรค์ต่อของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบของหวานหลังมื้ออาหาร

ในถนนคนเดินของเมืองโอบิยามะและรอบ ๆ ตลาดฮิโรเมะมีร้านกาแฟกลางคืนที่เปิดให้บริการดึกมากและคุ้มค่าแก่การสำรวจ ยกตัวอย่างร้านกาแฟเจ้าเก่ายอดนิยมในท้องถิ่น "กาแฟ.do.โบน (カフェ・ド・梵)" ที่มีจำหน่ายขนมเค้ก ของหวาน กาแฟและชาชนิดต่าง ๆ ที่ให้บริการถึงเที่ยงคืน

นอกจากนี้ยังมี "5019 PREMIUM FACTORY" ซึ่งในกลางวันจะเป็นร้านฟาสต์ฟุ้ดที่จำหน่าย "เรียวมะเบอร์เกอร์" ที่ได้รับความนิยม แต่พอกลางคืนก็จะแปลงร่างกายเป็นบาร์เหล้าที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสุราจากประเทศต่าง ๆ ที่ให้บริการถึงตี 2 และ "ถนนหมายเลข 55 โคจิ" ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นโชวะที่หลบซ่อนอยู่ในซอยเปลี่ยวของถนนคนเดิน ล้วนคุ้มค่าแก่การสำรวจหลังจากมื้อเย็นและก่อนกลับไปที่โรงแรม

สุดท้าย เมื่อกล่าวถึงทิวทัศน์ยามกลางคืนที่ขึ้นชื่อของจังหวัดโคจิ ก็คงต้องกล่าวถึง "ปราสาทโคจิ" ด้วย ปราสาทโคจิที่เป็นหนึ่งใน 100 ปราสาทยอดเยี่ยมของญี่ปุ่น เป็น 12 ปราสาทดั้งเดิมที่ยังเหลืออยู่ ในขณะเดียวได้ขึ้นชื่อเป็น "3 ปราสาทราตรีแห่งญี่ปุ่น" พร้อมกับปราสาทโอซาก้าและปราสาททาคาดะ โดยตัวปราสาทจะเปิดแสงไฟในกลางคืนตลอดทั้งปี 365 วัน ส่องแสงสว่างให้กับพื้นที่เมืองโคจิ

ทุกครั้งเมื่อถึงฤดูหนาวปราสาทโคจิจะจัดกิจกรรมการแสดงของศิลปะแสงไฟ และธีมกิจกรรมแสงไฟฤดูหนาวในปี 2022 จะเป็น "ART+แกลอรี่ดอกไม้แห่งแสง ณ ปราสาทโคจิ-โทมิทาโร่ มากิโนะและเหล่าจิตกรผู้ชื่นชอบในพืชพรรณ" ซึ่งธีมของงานจะโฟกัสไปที่งานดอกไม้แสงไฟสุดอลังการที่หลอมรวมผลงานจาก "โทมิทาโร่ มากิโนะ" บิดาแห่งพฤกษศาสตร์ญี่ปุ่นและจิตกรอิมเพรสชันนิซึมในยุคสมัยเดียวกัน

นอกเหนือจากนี้ ปราสาทโคจิจะจัดกิจกรรมแสงไฟเป็นระยะในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว หลังจากดื่มด่ำเต็มที่กับอาหารและสุราแสนอร่อยของโคจิแล้ว ก็ลองเดินมาเยี่ยมชมดูได้