พิชิตปราสาทโคจิ!

แล้วเราก็มาอยู่ที่ประตูหลักของปราสาท ประตูโอเตะมงที่น่าเกรงขาม นี่คือส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของปราสาทโคจิ ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 1664 จากที่นี่เราจะสามารถเห็นหอคอยเป้าหมายของเราซึ่งอยู่ที่ด้านบนทางซ้ายมือของเราไกล ๆ และนี่คือหนึ่งในไม่กี่จุดของญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพสามารถเก็บภาพอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งรวมไว้ด้วยประตูหลักของปราสาทและหอคอยในภาพเดียว
เราต้องผ่านประตูนี้เพื่อเข้าไปยังพื้นที่ปราสาท แต่จงระวังฝ่ายป้องกันที่ทิ้งหิน และสาดน้ำเดือดลงมาจากชั้นที่สอง และพวกที่ยิงมาจากกำแพงไว้ให้ดี! คุณคิดว่าจะสามารถรอดจากการโจมตีขั้นต้นนี้ได้หรือเปล่า? ตอนนี้เราผ่านประตูเข้ามาได้สำเร็จ และพวกเราก็ต้องเริ่มปีนขึ้นไปจากขั้นบันไดหินชุดแรกนั้น แต่ระวังด้วย เพราะหินเหล่านี้ถูกทำให้ไม่สม่ำเสมอกันโดยเจตนาเพื่อกีดขวางผู้บุกรุกที่พยายามขึ้นไปและเพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้ป้องกันที่ลงมา ดังนั้นขอให้เดินอย่างระมัดระวังด้วย!

ในตอนนี้ที่คุณเป็นนินจาแล้ว คุณอาจจะอยากประหยัดเวลาและลองปีนกำแพงปราสาท แต่ระหว่างที่คุณกำลังปีนป่ายหินก้อนใหญ่อยู่นั้น ก็ต้องระวังหินที่ถูกโยนลงมาจากรูปล่อย รวมทั้งหนามเหล็กซึ่งติดอยู่กับกำแพงที่เหมาะกับการโต้กลับเหล่านินจาด้วยนะ! พูดตามตรง แม้แต่นักปีนฝีมือฉกาจก็ยังยากที่จะปีนขึ้นไปจากตรงนั้น คุณควรลงมาลองใช้ทางอื่นดู! คุณอาจจะคิดว่าเข้าทางประตูซึเมะมงที่อยู่ตรงหน้าของคุณน่าจะง่ายกว่า ถ้าคุณสามารถรอดจากการยิงที่อาจมาได้จากสามทิศทางก่อนที่จะไปถึงตรงนั้นได้! และถึงแม้ว่าประตูจะถูกทะลวง แต่มันก็คือกลลวงที่เส้นทางอีกด้านของประตูจะพาคุณกลับไปที่ด้านนอกปราสาท จึงควรลองอ้อมไปจะดีกว่า ทางนี้จะพาคุณไปสู่ด้านบนของประตูซึ่งจากตรงนี้คุณจะสามารถเข้าไปในปราสาทได้ แต่เพดานของชั้นที่สองนั้นเตี้ยเกินกว่าที่จะชักดาบซามูไรได้ และถ้าหากคุณไม่มีดาบสั้น ตัวเลือกดีที่สุดของคุณ คือ ดาวกระจาย (ชูริเคน)

ในปัจจุบันคุณแค่ต้องจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อเข้าไปในปราสาทอย่างถูกต้อง แต่มันก็คุ้มกับการที่จะได้เห็นสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในหอกลางที่ยังคงอยู่ในสภาพเดิม ตอนนี้เราเข้ามาที่ด้านในแล้ว เราจะสามารถไปยังหอคอยสูง 18.5 เมตรได้ แต่ก่อนจะไปที่นั่นยังมีจุดที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ ห้องรับรองของเจ้าเมืองอันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ยังคงอยู่ของปราสาทโคจิ ลองจินตนาการถึงเจ้าเมืองที่นั่งอยู่ภายในห้องแบบยกสูงสมฐานะของท่านดูสิ ซึ่งคุณอาจคิดว่าง่ายต่อการโจมตี แต่เปล่าเลย! นั่นเพราะที่นี่มีเหล่าทหารติดอาวุธที่พร้อมกระโจนเข้ามาคุ้มกันจากห้องลับอยู่แล้ว และตอนนี้ก็เปิดให้เข้าชมได้ทั่วไป ทีนี้ก็ไปกันที่หอคอยซึ่งมีอยู่ด้วยกันหกชั้น ไม่ใช่สี่ชั้นอย่างที่ปรากฏให้เห็นจากด้านนอก และยังมีบันไดที่ค่อนข้างชัน จึงขอให้ระวังการลื่นล้ม เราสามารถหยุดชั่วครู่ในแต่ละชั้นระหว่างทางเพื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง และจินตนาการถึงการต่อสู้ที่ยังดุเดือดอยู่เบื้องล่างขณะที่เราเดินขึ้นไปได้ ในที่สุดเราก็มาถึงยอดแล้ว! ที่นี่ไม่ได้มีไว้สำหรับคนขวัญอ่อนเพราะมีแค่ราวกันไม่ให้คุณตกลงไปเท่านั้น แต่ทิวทัศน์แบบพาโนรามาก็คุ้มค่าด้วยภาพของภูเขาที่อยู่ทางทิศเหนือและภาพเมืองที่อยู่ทางทิศใต้ เสียแค่อย่างเดียวเท่านั้น คือ เราไม่มีเครื่องแต่งกายที่เข้ากันสำหรับใส่ฉลองความสำเร็จของเรา!

ถ้ามีไกด์ก็น่าจะเป็นประโยชน์ และนับเป็นโชคดีของคุณ! เพราะคุณสามารถหาไกด์ได้ฟรีซึ่งมีให้บริการทั้งภาษาอังกฤษ จีน หรือ เกาหลี ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวที่ปราสาท
http://kochisgg-english.mystrikingly.com/

หลังจากที่คุณออกแรง คุณจะต้องรู้สึกหิวกระหายแน่ ๆ ไม่มีปัญหา! เพราะเรามีสองตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้: ตลาดวันอาทิตย์ และ ตลาดฮิโรเมะ
มาเดินไปตามถนนโอเทะสุจิทางด้านตะวันออกของปราสาท แล้วดับกระหายด้วยน้ำส้มยูซุที่แสนสดชื่นกันสักแก้ว ตามด้วยการดับเสียงท้องร้องด้วยขนมมันหวานทอดกรอบ!
ยังหิวหรืออาจจะอยากหาอะไรดื่มที่แรงขึ้นงั้นเหรอ? ตัวช่วยนั้นมีอยู่ที่ตลาดและศูนย์อาหารฮิโรเมะแล้ว สถานที่ซึ่งประกอบไปด้วยร้านแผงและร้านอาหารประมาณ 65 ร้าน พร้อมบริเวณรับประทานอาหารรวมที่อยู่ตรงกลาง นี่คือสถานที่ที่ดีที่สุดในโคจิสำหรับการพบปะกระทบไหล่กับคนท้องถิ่นระหว่างลิ้มลองของกินประจำท้องถิ่น หยิบคัทสึโอะทะทะคิสักหน่อย โทสะมากิสักนิด ไก่ทอดกรอบอีกหน่อย และตบท้ายด้วยเบียร์เพื่อให้คล่องคอ แล้วซึมซับไปกับบรรยากาศที่คึกคัก คุณอาจได้เจอกับนินจาตัวจริงก็ได้ใครจะไปรู้!