ในเดือนกุมภาพันธ์ งานเทศกาลอากิบะซึ่งเปี่ยมด้วยเสน่ห์จะถูกจัดขึ้นที่เมืองนิโยะโดะกาวะ นี่เป็นหนึ่งในงานเทศกาลสามอันดับแรกของโคจิ และมีอายุยาวนานกว่า 200 ปี ขบวนแห่ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมทุกวัยสวมใส่เครื่องแต่งกายและหน้ากากหลากหลายแบบช่วยกันแบกมิโคชิ (เกี้ยวศาลเจ้า) และค่อย ๆ เดินขึ้นเนินเป็นระยะทางราว 3 กิโลเมตร คุณจะสามารถได้ยินเสียงเครื่องดนตรีดั้งเดิมอันมีชีวิตชีวา เช่น หอยสังข์ ขลุ่ยไม้ไผ่ และกลองญี่ปุ่น ขณะที่ผู้เข้าร่วมทั้ง 200 ชีวิตหรือราว ๆ นั้นเดินขบวนผ่านไร่ชาต่อเนื่องกันไป เสียงดนตรีนี้ได้ปลุกบรรยากาศเก่าแก่ขึ้นในขณะที่เครื่องดนตรีนั้นดูราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และอาจกล่าวได้ว่าการเต้นรำอันมีเอกลักษณ์น่าพิศวงโดยใช้เสาไม้สนสูงที่มีขนนกสีดำประดับไว้ด้านบนสุดคืองานแสดงที่เป็นไฮไลท์ของเทศกาลนี้้ เสาจะถูกโยนไปมาระหว่างคนสองคน และการโค้งตัวของมันเมื่อถูกรับนั้นน่าตื่นเต้นหวาดเสียวอยู่ไม่น้อย!
ในเดือนกรกฎาคมยังมีงานเทศกาลสุดพิเศษถูกจัดขึ้นที่เมืองอากะโอกะ ซึ่งสามารถขับรถมาจากท่าอากาศยานโคจิเรียวมะเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น ศิลปินท้องถิ่น "
เอะคิน" ผู้ที่มีห้องทำงานอยู่ที่นี่ในสมัยเอโดะได้วาดภาพศิลปะแบบญี่ปุ่นชั้นเยี่ยมอันสะเทือนอารมณ์ไว้ โดยในบางภาพนั้นยังแสดงภาพการนองเลือดไว้หลากหลายเหตุการณ์อีกด้วย ชาวเมืองอากะโอกะมองว่าภาพวาดเหล่านี้คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประเภทหนึ่ง โดยมีสีย้อมแดงเป็นคราบเลือดนั้นทำหน้าที่ป้องกันวิญญาณชั่วร้ายจากท้องทะเล ภาพวาดที่เหลือรอดมาจำนวนยี่สิบสามภาพส่วนมากนั้นจะได้รับการจัดแสดงอยู่ที่ถนนของเมืองปีละสองวันเท่านั้น ซึ่งแสงไฟจากเทียนที่ถูกจุดขึ้นจะส่องแสงสลัวให้บรรยากาศลี้ลับ โดยจะมีข้อความแนวเสียดสีติดตลกที่ขบขำและคมคายหลายอันซ่อนเร้นอยู่ในผลงานศิลปะเหล่านั้น ลองเข้ามาใกล้ ๆ และไขปริศนาดูสิ! เทศกาลเอะคินคือโอกาสที่คุณจะได้ชมภาพวาดสุดอัศจรรย์เหล่านี้อย่างใกล้ชิดทุกมุมโชกเลือดเต็มที่!
เทศกาลโยะสะโคอิที่ถูกจัดขึ้นโดยตลอดทั่วทั้งใจกลางเมืองโคจิในเดือนสิงหาคมนี้คืออีเวนต์ที่ขึ้นชื่อที่สุดของโคจิอย่างไม่ต้องสงสัย โดยจะมีทีมนักเต้นระบำในเครื่องแต่งกายสีสันสดใสเต้นอยู่ตามถนนเส้นต่าง ๆ ประกอบไปตามจังหวะเสียงเพลงที่เปิดจากบรรดารถเคลื่อนที่ นับเป็นภาพการผสมผสานของรูปแบบเครื่องแต่งกายและรูปแบบการเต้นทั้งสมัยใหม่และสมัยเก่าอันน่าหลงไหล โดยแต่ละทีมล้วนมีรูปแบบดนตรี เครื่องแต่งกาย และการเต้นระบำที่เป็นอิสระและเป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าจะต้องใช้ดนตรีที่ยึดตามเพลงโยะสะโคอิดั้งเดิมก็ตาม นารุโกะ (กรับไม้) ซึ่งนักเต้นระบำจะต้องใช้นั้นถือเป็นส่วนสำคัญของการแสดง เช่นเดียวกับรอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าของผู้เข้าร่วมทุกคน! ทั้งสองสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติความเป็นมิตรและการเข้าสังคมของชาวเมืองโคจิ และคุณจะได้รับสิ่งนี้ติดมาด้วยอย่างแน่นอนเมื่อได้ลองมาสัมผัสประสบการณ์ในงานเทศกาลสุดมหัศจรรย์นี้ หากคุณรู้สึกอยากลองเต้นระบำดู คุณสามารถเข้าร่วมได้ในทีม 'เปิด' ณ วันนั้นเลย หรือคุณอาจเลือกชมการแสดงอยู่ข้างทางเพื่อเก็บภาพบรรยากาศ แล้วใกล้ชิดกับผู้เข้าร่วมขณะดื่มและรับประทานอาหารที่ตลาดฮิโรเมะก็ได้เช่นกัน