แนะนำ 4 เส้นทางพื้นฐานสำหรับการขี่จักรยานเที่ยวชมจังหวัดโคจิ เมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่น
จังหวัดโคจิที่อยู่ทางทิศใต้ของชิโกกุ ทางเหนือมีพื้นที่ภูเขาชิโกกุ ทางใต้มีมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ไพศาล นอกจากมีสัดส่วนพื้นที่ป่าปกคลุมเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีแม่น้ำลำธารที่ใสสะอาด เช่น แม่น้ำชิมันโตะ "ลำธารใสสุดท้ายของญี่ปุ่น" แม่น้ำนิโยโดะ "ลำธารใสมหัศจรรย์" ด้วยสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม เหล่าเมืองใหญ่ ๆ ไม่มีทางที่จะเทียบเคียงได้เลย
การสัมผัสธรรมชาติด้วยวิธีขี่จักรยาน ไม่เพียงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว แถมยังเสริมสร้างสุขภาพได้อีกด้วย ในบทตอนนี้ได้เรียบเรียงเส้นทางจักรยาน 4 เส้นทาง เพื่อนำพาคุณขี่เข้าไปในทิวทัศน์เมืองดั้งเดิมอันสวยงามน่าตื่นเต้นของโคจิ
การสัมผัสธรรมชาติด้วยวิธีขี่จักรยาน ไม่เพียงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว แถมยังเสริมสร้างสุขภาพได้อีกด้วย ในบทตอนนี้ได้เรียบเรียงเส้นทางจักรยาน 4 เส้นทาง เพื่อนำพาคุณขี่เข้าไปในทิวทัศน์เมืองดั้งเดิมอันสวยงามน่าตื่นเต้นของโคจิ
เส้นทางที่ 1 : ตอนสัมผัสชีพจรแห่งแผ่นดิน สวนธรณีวิทยาโลกมุโรโตะ
คาบสมุทรมุโรโตะที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของโคจิ มีปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์มากมายหลังจากผ่านการเคลื่อนไหวของธรณี เช่น การกัดเซาะจากทะเลและลม สามารถมองเห็นถึงทิวทัศน์ทางธรรมชาติของชั้นดิน ซากดึกดำบรรพ์และพันธุ์ไม้ในกึ่งเขตร้อน จนได้รับการรับรองให้เป็น "สวนธรณีวิทยาโลก" จากองค์กร UNESCO (องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ)ในปีพ.ศ. 2554
เมืองมุโรโตะที่มีพื้นที่ 248.2 ตารางกิโลเมตร ทั้งพื้นที่ล้วนเป็นบริเวณของสวนธรณีวิทยา ออกเดินทางจากศูนย์ธรณีวิทยาโลกมุโรโตะ เส้นทาง 6 กิโลเมตรตั้งแต่ถนนริมทะเลจนถึงแหลมมุโรโตะ เป็นเส้นทางง่าย ๆ ที่สามารถขี่อย่างสบายและชมทิวทัศน์ทะเลภูเขาสวยงามยอดเยี่ยม
จุดที่ 1 : ศูนย์ธรณีวิทยาโลกมุโรโตะ
เป็นหอการเรียนรู้ที่ใช้วีดีโอและแบบจำลองเพื่อแสดงสภาพแวดล้อมธรรมชาติและวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ของมุโรโตะ และยังมีให้บริการจักรยานที่ไม่ต้องกลับไปคืนที่จุดเริ่มต้น หลังจากเช่าจักรยานที่นี่แล้ว ก็สามารถเริ่มการเดินทางผจญภัยในสวนธรณีวิทยามุโรโตะตามถนนหมายเลข 55
จุดที่ 2 : มิคุโรโดะ ทางเดินแนวปะการัง
ขี่ไปตามเส้นทางชายฝั่งทะเลประมาณ 5.5 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ มิคุโรโดะเป็นถ้ำธรรมชาติที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำทะเล ตามตำนานกล่าวว่าเป็นสถานที่ตรัสรู้ของท่านอาจารย์โคโบะ ไดชิในช่วงวัยเยาว์เมื่อประมาณ 1200 ปีก่อน เป็นจุดท่องเที่ยวเสริมบุญที่ขึ้นชื่อในจังหวัด เสียงคลื่นทะเลตรงจุดนี้ได้รับเลือกเป็น "100 อันดับยอดเยี่ยมของจุดท่องเที่ยวทางเสียงของญี่ปุ่น"
และ ขายฝั่งทะเลที่อยู่ด้านหน้าของถ้ำมิคุโรโดะก็คือ "ทางเดินแนวปะการัง" ที่เป็นจุดท่องเที่ยวตัวแทนของแหลมมุโรโตะ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแหลมมุโรโตะ เป็นทางเดินที่มีความยาวประมาณ 2.6 กิโลเมตร เดินไปตามทางเดินยังคงมองเห็นทิวทัศน์ของสภาพทางธรณีชั้นหินที่ยังคงเคลื่อนไหวยกตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคลื่นทะเลที่กระทบบนแนวหิน
จุดปลายทาง : แหลมมุโรโตะ
จากจุดที่ผ่านมาขี่ไปทางทิศใต้ 850 เมตร จะมาถึงแหลมทะเลที่อยู่ทางทิศใต้สุดของคาบสมุทรมุโรโตะ ด้วยแนวคาบสมุทรยื่นตัวเข้าไปในมหาสมุทรแปซิฟิกมีทัศนียภาพที่กว้างใหญ่ ทิวทัศน์ทะเลที่มองจากที่สูง "จุดชมวิวแหลมมุโรโตะ" เรียกได้ว่าหาดูได้ยาก ยิ่งบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดินยิ่งทำให้คนหลงใหล
บริเวณใกล้ ๆ ยังมี "ต้นไกร" พันธุ์ไม้รีมชายฝั่งในกึ่งเขตร้อนที่ถูกกำหนดไว้เป็น "อนุสาวรีย์ธรรมชาติแห่งชาติ" และ "หินโคซะซุเกะ" ในตำนาน หากยังมีแรงเหลือ "ประภาคารแหลมมุโรโตะ" ที่อยู่บนภูเขาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคู่รักก็คุ้มค่าที่จะไป สุดท้ายคืนจักรยานที่ "ศูนย์บริการข้อมูลสมาคมการท่องเที่ยวเมืองมุโรโตะ" และโดยสารรถบัสกลับไป
เมืองมุโรโตะที่มีพื้นที่ 248.2 ตารางกิโลเมตร ทั้งพื้นที่ล้วนเป็นบริเวณของสวนธรณีวิทยา ออกเดินทางจากศูนย์ธรณีวิทยาโลกมุโรโตะ เส้นทาง 6 กิโลเมตรตั้งแต่ถนนริมทะเลจนถึงแหลมมุโรโตะ เป็นเส้นทางง่าย ๆ ที่สามารถขี่อย่างสบายและชมทิวทัศน์ทะเลภูเขาสวยงามยอดเยี่ยม
จุดที่ 1 : ศูนย์ธรณีวิทยาโลกมุโรโตะ
เป็นหอการเรียนรู้ที่ใช้วีดีโอและแบบจำลองเพื่อแสดงสภาพแวดล้อมธรรมชาติและวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ของมุโรโตะ และยังมีให้บริการจักรยานที่ไม่ต้องกลับไปคืนที่จุดเริ่มต้น หลังจากเช่าจักรยานที่นี่แล้ว ก็สามารถเริ่มการเดินทางผจญภัยในสวนธรณีวิทยามุโรโตะตามถนนหมายเลข 55
จุดที่ 2 : มิคุโรโดะ ทางเดินแนวปะการัง
ขี่ไปตามเส้นทางชายฝั่งทะเลประมาณ 5.5 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ มิคุโรโดะเป็นถ้ำธรรมชาติที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำทะเล ตามตำนานกล่าวว่าเป็นสถานที่ตรัสรู้ของท่านอาจารย์โคโบะ ไดชิในช่วงวัยเยาว์เมื่อประมาณ 1200 ปีก่อน เป็นจุดท่องเที่ยวเสริมบุญที่ขึ้นชื่อในจังหวัด เสียงคลื่นทะเลตรงจุดนี้ได้รับเลือกเป็น "100 อันดับยอดเยี่ยมของจุดท่องเที่ยวทางเสียงของญี่ปุ่น"
และ ขายฝั่งทะเลที่อยู่ด้านหน้าของถ้ำมิคุโรโดะก็คือ "ทางเดินแนวปะการัง" ที่เป็นจุดท่องเที่ยวตัวแทนของแหลมมุโรโตะ ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแหลมมุโรโตะ เป็นทางเดินที่มีความยาวประมาณ 2.6 กิโลเมตร เดินไปตามทางเดินยังคงมองเห็นทิวทัศน์ของสภาพทางธรณีชั้นหินที่ยังคงเคลื่อนไหวยกตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคลื่นทะเลที่กระทบบนแนวหิน
จุดปลายทาง : แหลมมุโรโตะ
จากจุดที่ผ่านมาขี่ไปทางทิศใต้ 850 เมตร จะมาถึงแหลมทะเลที่อยู่ทางทิศใต้สุดของคาบสมุทรมุโรโตะ ด้วยแนวคาบสมุทรยื่นตัวเข้าไปในมหาสมุทรแปซิฟิกมีทัศนียภาพที่กว้างใหญ่ ทิวทัศน์ทะเลที่มองจากที่สูง "จุดชมวิวแหลมมุโรโตะ" เรียกได้ว่าหาดูได้ยาก ยิ่งบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดินยิ่งทำให้คนหลงใหล
บริเวณใกล้ ๆ ยังมี "ต้นไกร" พันธุ์ไม้รีมชายฝั่งในกึ่งเขตร้อนที่ถูกกำหนดไว้เป็น "อนุสาวรีย์ธรรมชาติแห่งชาติ" และ "หินโคซะซุเกะ" ในตำนาน หากยังมีแรงเหลือ "ประภาคารแหลมมุโรโตะ" ที่อยู่บนภูเขาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคู่รักก็คุ้มค่าที่จะไป สุดท้ายคืนจักรยานที่ "ศูนย์บริการข้อมูลสมาคมการท่องเที่ยวเมืองมุโรโตะ" และโดยสารรถบัสกลับไป
เส้นทางที่ 2 : ผจญภัยที่บ้านเกิดของยาทาโร อิวะซากิและประวัติศาสตร์อะกิ
เมืองอะกิที่อยู่ทางตะวันออกของจังหวัดโคจิ เป็นบ้านเกิดของ "ยาทาโร อิวะซากิ" ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทมิตซูบิชิในช่วงปลายของยุคบากูมัตสึ นอกเหนือจาก "บ้านเก่าของยาทาโร อิวะซากิ" ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมี "ซากปราสาทอะกิ" "โดอิคะจิว" ในพื้นที่ถนนบ้านซามูไร "นาฬิกาโนระ" หอนาฬิการ้อยปี ล้วนถือว่าเป็นสถานที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเมืองเล็กแห่งประวัติศาสตร์
เมืองอะกิที่นิยมเกษตรกรรมและตกแต่งสวน สามารถมองเห็นโรงเรือน "มะเขือ" ที่ถือว่าเป็นสิ่งขึ้นชื่อในท้องถิ่นที่มีปริมาณผลิตเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น สัญจรบนถนนระหว่างทุ่งนาที่กว้างใหญ่ ขี่จักรยานอย่างอิสระไปตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นทางเลือกที่ใช้ได้เลยทีเดียว
จุดที่ 1 : ตลาด JIBASAN สถานีอะกิ
เป็นตลาดที่ตั้งเคียงคู่กับสถานีอะกิของสายโกะเมน-นะฮะริ นอกจากมีจำหน่ายผักผลไม้ ของพื้นเมือง ขนมปังและข้าวกล่องแล้ว ยังมีจักรยานฟรีให้ยืม สมฐานะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทานจักรยานจริง ๆ (ข้อควรระวัง : 1.ไม่ต้องนัดล่วงหน้า ให้เป็นไปตามรถที่มีอยู่ 2.ยืมและคืนจุดเดิม 3.ไม่เปิดให้ยืมในวันฝนตก)
จุดที่ 2 : นาฬิกาโนระ
ระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ เป็นหอนาฬิกาที่เจ้าถิ่นเกนมะ ฮาตานากะได้สร้างขึ้นมา หลังจากวิจัยและค้นคว้าเกี่ยวกับนาฬิกาแขวนที่ผลิตโดยอเมริกาแล้ว ในช่วงยุคกลางของเมจิที่นาฬิกายังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพื่อเป็นการแจ้งให้เกษตรกรท้องถิ่นในยุคนั้นได้รับรู้เวลา และกลายเป็นแลนด์มาร์คที่ขึ้นชื่อของอะกิ
พื้นที่ว่างที่อยู่ตรงข้ามกับนาฬิกาโนระ จะมีดอกทานตะวันบานสะพรั่งในเดือน 7 และดอกคอสมอสในเดือน 10 เป็นการเพิ่มสีสันให้กับถนนเก่าแก่
จุดที่ 3 : พื้นที่อนุรักษ์สิ่งก่อสร้างดั้งเดิมโดอิคะจิว
ระยะทางประมาณ 400 เมตรจากจุดก่อนหน้านี้ เป็นสถานที่รวมตัวของบ้านซามูไรซึ่งขยายจากศูนย์กลางที่เป็นซากปราสาทอะกิ มีกำแพงดินที่สูงเกือบ 3 เมตรล้อมรอบตัวบ้าน ผนังที่สร้างจากไม้ไผ่และต้นโอ๊กยังรักษาไว้อย่างสมบูรณ์
ในบรรดาบ้านซามูไรทั้งหมด "บ้านโนมูระ" เป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุด และยังเป็นเพียงแห่งเดียวที่ยังเปิดให้เข้าชม บริเวณใกล้เคียงยังมีซากปราสาทโดอิ "บ้านตระกูลมุโต" และพิพิธภัณฑ์ข้อมูลประวัติศาสตร์ที่สามารถแวะเยี่ยมชมได้
จุดปลายทาง : บ้านเกิดยาทาโร อิวะซากิ
ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ เป็นบ้านเกิดของ "ยาทาโร อิวะซากิ" ผู้ก่อตั้ง "กลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ" ที่เป็นกลุ่มบริษัท 3 อันดับแรกของญี่ปุ่น แผ่นกระเบื้องบนโกดังที่อยู่ด้านหลังของบ้านเกิดจะมีสัญลักษณ์ประจำตระกูลอิวะซากิ "ลายมิตซูบิชิ" กล่าวกันว่าเป็นต้นแบบของสัญลักษณ์เครือบริษัทมิตซูบิชิ ในสวนได้เก็บการตกแต่งที่เป็นหมู่เกาะญี่ปุ่นจำลองที่สร้างขึ้นโดยยาทาโร อิวะซากิในวัยเยาว์เพื่อฝากความฝันที่จะโบยบินไปทั่วท้องฟ้า
พอเสร็จสิ้นการเดินเที่ยวถนนเก่าแก่และหลังจากกลับไปเปลี่ยนรถที่สถานีแล้ว อย่าลืมลองชิมอาหารแสนอร่อยในท้องถิ่นของอะกิ "ข้าวหน้าปลาข้าวสาร" นะ!
เมืองอะกิที่นิยมเกษตรกรรมและตกแต่งสวน สามารถมองเห็นโรงเรือน "มะเขือ" ที่ถือว่าเป็นสิ่งขึ้นชื่อในท้องถิ่นที่มีปริมาณผลิตเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น สัญจรบนถนนระหว่างทุ่งนาที่กว้างใหญ่ ขี่จักรยานอย่างอิสระไปตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ เป็นทางเลือกที่ใช้ได้เลยทีเดียว
จุดที่ 1 : ตลาด JIBASAN สถานีอะกิ
เป็นตลาดที่ตั้งเคียงคู่กับสถานีอะกิของสายโกะเมน-นะฮะริ นอกจากมีจำหน่ายผักผลไม้ ของพื้นเมือง ขนมปังและข้าวกล่องแล้ว ยังมีจักรยานฟรีให้ยืม สมฐานะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทานจักรยานจริง ๆ (ข้อควรระวัง : 1.ไม่ต้องนัดล่วงหน้า ให้เป็นไปตามรถที่มีอยู่ 2.ยืมและคืนจุดเดิม 3.ไม่เปิดให้ยืมในวันฝนตก)
จุดที่ 2 : นาฬิกาโนระ
ระยะทางประมาณ 1.7 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ เป็นหอนาฬิกาที่เจ้าถิ่นเกนมะ ฮาตานากะได้สร้างขึ้นมา หลังจากวิจัยและค้นคว้าเกี่ยวกับนาฬิกาแขวนที่ผลิตโดยอเมริกาแล้ว ในช่วงยุคกลางของเมจิที่นาฬิกายังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพื่อเป็นการแจ้งให้เกษตรกรท้องถิ่นในยุคนั้นได้รับรู้เวลา และกลายเป็นแลนด์มาร์คที่ขึ้นชื่อของอะกิ
พื้นที่ว่างที่อยู่ตรงข้ามกับนาฬิกาโนระ จะมีดอกทานตะวันบานสะพรั่งในเดือน 7 และดอกคอสมอสในเดือน 10 เป็นการเพิ่มสีสันให้กับถนนเก่าแก่
จุดที่ 3 : พื้นที่อนุรักษ์สิ่งก่อสร้างดั้งเดิมโดอิคะจิว
ระยะทางประมาณ 400 เมตรจากจุดก่อนหน้านี้ เป็นสถานที่รวมตัวของบ้านซามูไรซึ่งขยายจากศูนย์กลางที่เป็นซากปราสาทอะกิ มีกำแพงดินที่สูงเกือบ 3 เมตรล้อมรอบตัวบ้าน ผนังที่สร้างจากไม้ไผ่และต้นโอ๊กยังรักษาไว้อย่างสมบูรณ์
ในบรรดาบ้านซามูไรทั้งหมด "บ้านโนมูระ" เป็นบ้านที่เก่าแก่ที่สุด และยังเป็นเพียงแห่งเดียวที่ยังเปิดให้เข้าชม บริเวณใกล้เคียงยังมีซากปราสาทโดอิ "บ้านตระกูลมุโต" และพิพิธภัณฑ์ข้อมูลประวัติศาสตร์ที่สามารถแวะเยี่ยมชมได้
จุดปลายทาง : บ้านเกิดยาทาโร อิวะซากิ
ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ เป็นบ้านเกิดของ "ยาทาโร อิวะซากิ" ผู้ก่อตั้ง "กลุ่มบริษัทมิตซูบิชิ" ที่เป็นกลุ่มบริษัท 3 อันดับแรกของญี่ปุ่น แผ่นกระเบื้องบนโกดังที่อยู่ด้านหลังของบ้านเกิดจะมีสัญลักษณ์ประจำตระกูลอิวะซากิ "ลายมิตซูบิชิ" กล่าวกันว่าเป็นต้นแบบของสัญลักษณ์เครือบริษัทมิตซูบิชิ ในสวนได้เก็บการตกแต่งที่เป็นหมู่เกาะญี่ปุ่นจำลองที่สร้างขึ้นโดยยาทาโร อิวะซากิในวัยเยาว์เพื่อฝากความฝันที่จะโบยบินไปทั่วท้องฟ้า
พอเสร็จสิ้นการเดินเที่ยวถนนเก่าแก่และหลังจากกลับไปเปลี่ยนรถที่สถานีแล้ว อย่าลืมลองชิมอาหารแสนอร่อยในท้องถิ่นของอะกิ "ข้าวหน้าปลาข้าวสาร" นะ!
เส้นทางที่ 3 : เมืองโคนันที่ซึ่งรวมทั้งธรรมชาติ อาหารเลิศรส ประวัติศาสตร์ไว้ในหนึ่งเดียว
ทางใต้ของเมืองโคนันหันหน้าเข้ามหาสมุทรแปซิฟิก มีพื้นที่ราบเรียบกว้างใหญ่ ภาคกลางมีภูเขาล้อมรอบ ทางเหนือจะเป็นแนวเทือกเขาชิโกกุ และยังมีแม่น้ำโมโนเบะ แม่น้ำยะสุไหลผ่านตัวเมือง เมืองโคนันที่มีทั้งภูเขา แม่น้ำและทะเล ไม่เพียงแต่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ธุรกิจตกแต่งสวนที่ก้าวหน้า ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและอาหารอร่อยที่หลากหลายแล้ว
ในฐานะ "เมืองอะกะโอกะ" เมืองท่าที่สำคัญในยุคสมัยเอโดะ ยังได้อนุรักษ์ร่องรอยประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยยุคบากูมัตสึจนถึงยุคเมจิ เดินทางไปมาท่ามกลางธรรมชาติ อาหารเลิศรสและประวัติศาสตร์ด้วยวิธีการขี่จักรยาน
จุดที่ 1 : สถานีโนะอิชิ
เป็นสถานีเริ่มต้นของสายโกะเมน-นะฮะริของสายโทะสะคุโระชิโอะ ภายในสถานีมี "สมาคมการท่องเที่ยวเมืองโคนัน" ที่ให้บริการเช่ายืม รูปแบบจักรยานที่เลือกได้จะมีมามาชาริ จักรยานเสือหมอบและจักรยานไฟฟ้า สามารถจองรูปแบบจักรยานที่ต้องการล่วงหน้า
การเดินทางไปเมืองอะกะโอกะจุดถัดไป ถึงแม้จะมีเส้นทางที่สั้นสุด แต่แนะนำให้มุ่งเป้าไปที่เส้นเรียบชายฝั่งทะเลทางทิศใต้ก่อน มุ่งหน้าประมาณ 3 กิโลเมตรจมาะถึง "เขื่อนภาพเขียนมือ" ที่วาดโดยเด็ก ๆ ในท้องถิ่น พร้อมกับชมทัศนียภาพของมหาสมุทรแปซิฟิกอันสวยงาม
จุดที่ 2 : เมืองอะกะโอกะ
ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ "เมืองอะกะโอกะ" เป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญในยุคสมัยเอโดะ และพัฒนาเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยบากูมัตสึจนถึงเมจิ ยังคงอนุรักษ์ร้านค้าเก่าแก่ โกดัง ถนนเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์กว่าร้อยปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เอคินงุระ" ซึ่งเป็นที่จัดเก็บผลงานจิตกรอัจฉริยะในสมัยบากูมัตสึ "นิชิกาวะยะ โอนโบะ" ร้านขนมญี่ปุ่นที่ก่อตั้งและสืบทอดมากว่าสามร้อยปี "โรงกลั่นเหล้าสาเกทาคางิ" ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2427 ขี่ไปตามเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค สำรวจความความรุ่งโรจน์ในเวลานั้น
จุดปลายทาง : YASEA PARK
ระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ ป่ามะพร้าวที่สูงลิ่ว หาดทรายที่กว้างใหญ่ "YASEA PARK" ที่มีบรรยากาศคล้ายกับฮาวาย เป็นสถานที่เล่นน้ำทะเลที่ได้รับความนิยมของเมืองโคนัน มีสนามแข่งเรือยอทช์ อุปกรณ์การเล่นรอบด้าน แถมยังมีพื้นที่สำหรับ BBQ ให้เช่ายืมได้ "สโมสรสถานีแห่งทะเล YASU" ที่อยู่ใกล้ ๆ ยังสามารถสัมผัสกิจกรรมบนทะเลหลายอย่าง ห่างออกไป 800 เมตรสามารถชมทัศนียภาพมหัศจรรย์ของ "สะพานยกท่าเรือเทอิ" ส่วนข้าง ๆ สวนจะเป็นจุดพักรถแบบผสม "จุดพักรถยาซุ" โดยมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย สามารถซื้อของที่ระลึก ทานอาหารว่าง เพื่อพักผ่อนเล็กน้อยก่อนเดินทางกลับ เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นจุดปลายทางของเส้นทาง
※ไม่มีบริการคืนรถที่ปลายทาง จะต้องคืนที่จุดเช่าเดิม
ในฐานะ "เมืองอะกะโอกะ" เมืองท่าที่สำคัญในยุคสมัยเอโดะ ยังได้อนุรักษ์ร่องรอยประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยยุคบากูมัตสึจนถึงยุคเมจิ เดินทางไปมาท่ามกลางธรรมชาติ อาหารเลิศรสและประวัติศาสตร์ด้วยวิธีการขี่จักรยาน
จุดที่ 1 : สถานีโนะอิชิ
เป็นสถานีเริ่มต้นของสายโกะเมน-นะฮะริของสายโทะสะคุโระชิโอะ ภายในสถานีมี "สมาคมการท่องเที่ยวเมืองโคนัน" ที่ให้บริการเช่ายืม รูปแบบจักรยานที่เลือกได้จะมีมามาชาริ จักรยานเสือหมอบและจักรยานไฟฟ้า สามารถจองรูปแบบจักรยานที่ต้องการล่วงหน้า
การเดินทางไปเมืองอะกะโอกะจุดถัดไป ถึงแม้จะมีเส้นทางที่สั้นสุด แต่แนะนำให้มุ่งเป้าไปที่เส้นเรียบชายฝั่งทะเลทางทิศใต้ก่อน มุ่งหน้าประมาณ 3 กิโลเมตรจมาะถึง "เขื่อนภาพเขียนมือ" ที่วาดโดยเด็ก ๆ ในท้องถิ่น พร้อมกับชมทัศนียภาพของมหาสมุทรแปซิฟิกอันสวยงาม
จุดที่ 2 : เมืองอะกะโอกะ
ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ "เมืองอะกะโอกะ" เป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญในยุคสมัยเอโดะ และพัฒนาเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยบากูมัตสึจนถึงเมจิ ยังคงอนุรักษ์ร้านค้าเก่าแก่ โกดัง ถนนเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์กว่าร้อยปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เอคินงุระ" ซึ่งเป็นที่จัดเก็บผลงานจิตกรอัจฉริยะในสมัยบากูมัตสึ "นิชิกาวะยะ โอนโบะ" ร้านขนมญี่ปุ่นที่ก่อตั้งและสืบทอดมากว่าสามร้อยปี "โรงกลั่นเหล้าสาเกทาคางิ" ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2427 ขี่ไปตามเมืองที่เต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค สำรวจความความรุ่งโรจน์ในเวลานั้น
จุดปลายทาง : YASEA PARK
ระยะทางประมาณ 3.1 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้ ป่ามะพร้าวที่สูงลิ่ว หาดทรายที่กว้างใหญ่ "YASEA PARK" ที่มีบรรยากาศคล้ายกับฮาวาย เป็นสถานที่เล่นน้ำทะเลที่ได้รับความนิยมของเมืองโคนัน มีสนามแข่งเรือยอทช์ อุปกรณ์การเล่นรอบด้าน แถมยังมีพื้นที่สำหรับ BBQ ให้เช่ายืมได้ "สโมสรสถานีแห่งทะเล YASU" ที่อยู่ใกล้ ๆ ยังสามารถสัมผัสกิจกรรมบนทะเลหลายอย่าง ห่างออกไป 800 เมตรสามารถชมทัศนียภาพมหัศจรรย์ของ "สะพานยกท่าเรือเทอิ" ส่วนข้าง ๆ สวนจะเป็นจุดพักรถแบบผสม "จุดพักรถยาซุ" โดยมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย สามารถซื้อของที่ระลึก ทานอาหารว่าง เพื่อพักผ่อนเล็กน้อยก่อนเดินทางกลับ เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้เป็นจุดปลายทางของเส้นทาง
※ไม่มีบริการคืนรถที่ปลายทาง จะต้องคืนที่จุดเช่าเดิม
เส้นทางที่ 4 : ขี่จักรยาน RIN-RIN ชมทัศนียภาพของแม่น้ำชิมันโตะ
"แม่น้ำชิมันโตะ" ได้ถูกยกย่องเป็น "ลำธารใสสุดท้าย" ตลอดเส้นทางมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางสำหรับเที่ยวขี่จักรยานที่เหมาะสมที่สุดในจังหวัดโคจิ บนลุ่มแม่น้ำชิมันโตะมีจุดเช่ายืมจักรยานหลายจุด ในบทตอนนี้จะแนะนำ "จักรยาน RIN-RIN ชิมันโตะ" ที่ให้บริการคืนรถปลายทาง ตั้งแต่ตำแหน่ง "สถานีเอกะวะซากิ JR" ที่อยู่แถบพื้นที่ภูเขาช่วงกลางของแม่น้ำชิมันโตะ จนถึง "สถานีนะคะมูระ" ของสายโทะสะคุโระชิโอะเมืองชิมันโตะ ระหว่างทางมีจุดบริการทั้งสิ้น 7 จุด ระยะทางทั้งหมดประมาณ 40 กิโลเมตร หากออกเดินทางจากสถานีนะคะมูระไปทางต้นน้ำจะเป็นทางขึ้นเขา ค่อนข้างจะยากลำบาก ดังนั้นจึงแนะนำให้เริ่มต้นจากสถานีเอกะวะซากิ JR" และขี่ไปทางปลายน้ำ ระยะทางทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ระหว่างทางนอกจากสะพานใต้น้ำที่เป็นจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่อแล้ว ยังสามารถสัมผัสแม่น้ำและที่พัก วางแผน 2 วัน 1 คืนเพื่อค่อย ๆ ดื่มด่ำกับความงามของแม่น้ำชิมันโตะ
จุดบริการจักรยาน RIN-RIN ทั้ง 7 จุด
1. สถานีเอกะวะซากิ JR (ศูนย์ข้อมูลฟุรุซาโตะ)
หลังจากลงรถที่สถานีแล้ว สามารถเช่ายืมจักรยานได้จากศูนย์ข้อมูลที่อยู่ข้าง ๆ ได้ทันที สะดวกและรวดเร็ว
2.สถานีแม่น้ำชิมันโตะ-ศูนย์เรือแคนู (ระยะทางประมาณ 800 เมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
ให้บริการกิจกรรมเรือแคนูที่ล่องตามลำธาร มีการเดินทางแบบครึ่งวันและ 1 วัน
3.ชิมันโตะราคูชา (ระยะทางประมาณ 7.4 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
เป็นสถานที่พักที่สร้างใหม่จากหอโรงเรียนเก่า สามารถเลือกพักได้ตั้งแต่ห้องประกาศจนถึงห้องผู้อำนวยการโรงเรียน
4.ภัตตาคารบ้านเกษตร SHAENJIRI (ระยะทางประมาณ 5.6 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
มีเมนูอาหารให้เลือกสิบกว่ารายการตามวัสดุอาหารในฤดู และเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแสนอร่อยในรูปแบบบุฟเฟ่ต์
5.เรือแคนูชิมันโตะและหมู่บ้านแห่งแคมปิ้ง KAWARAKKO (ระยะทางประมาณ 13.3 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
ให้บริการกิจกรรมบนแม่น้ำ เช่น เรือแคนู และ SUP และยังมีโซนแคมปิ้ง บ้านไม้เล็กให้พักได้
6.รอยัลโฮเต็ลชิมันโตะแห่งใหม่ (ระยะทางประมาณ 15.2 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
เป็นโรงแรมในเมืองขนาดใหญ่ในเขตเมืองนะคะมูระ ภายในมีชินานามิออนเซ็น ช่วยให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางระยะไกลหมดไปในทันที
7.สถานีนะคะมูระ สมาคมการท่องเที่ยวเมืองชิมันโตะ (ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
สมาคมการท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ข้างทางเข้าของสถานี ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวและการคมนาคมในท้องถิ่นอย่างครบถ้วน เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับเป็นจุดเริ่มต้นของนักขี่ที่มากประสบการณ์
จุดท่องเที่ยวที่แนะนำให้แวะชมได้ :
ระหว่างเส้นทางจะผ่านสะพานใต้น้ำหลายจุด และยังมีเรือยาคาตะบุเนะที่พาเที่ยวแม่น้ำในบริเวณใกล้ ๆ เช่น "เรือยาคาตะบุเนะ Sakoya" ที่ ที่แล่นผ่าน "สะพานใต้น้ำซาดะ" ที่มีความยาวมากที่สุด "เรือยาคาตะบุเนะชิมันโตะมิโดริ" ที่ผ่าน "สะพานใต้น้ำซาดะ" และ "เรือยาคาตะบุเนะ Nattoku" ที่เล่นผ่าน "สะพานใต้น้ำทาคาเซะ" เป็นต้น หลังจากผ่านสะพานใต้น้ำซาดะแล้วไปทางริมแม่น้ำจะผ่าน "เซนบะโรเมน" เพื่อสัมผัสเรือใบ ส่วน "ป่าอิริตะ" ที่ทอดยาวไปตามแนวเขื่อนประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีดอกคาโนลาสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนดอกฮิกังบานะจะบานในฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปยังสถานีนะคะมูระจะผ่านแลนด์มาร์คของนะคะมูระ "สะพานแม่น้ำชิมันโตะ (สะพานเหล็กแดง)"
ระหว่างทางขี่จักรยานสามารถแวะพักได้ที่ "SHADE TREE COFFEE" ร้านกาแฟที่มาพร้อมทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำชิมันโตะ หรือไปชิมอาหารปลาไหลธรรมชาติแม่น้ำชิมันโตะที่ "SAKOYA"
จุดบริการจักรยาน RIN-RIN ทั้ง 7 จุด
1. สถานีเอกะวะซากิ JR (ศูนย์ข้อมูลฟุรุซาโตะ)
หลังจากลงรถที่สถานีแล้ว สามารถเช่ายืมจักรยานได้จากศูนย์ข้อมูลที่อยู่ข้าง ๆ ได้ทันที สะดวกและรวดเร็ว
2.สถานีแม่น้ำชิมันโตะ-ศูนย์เรือแคนู (ระยะทางประมาณ 800 เมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
ให้บริการกิจกรรมเรือแคนูที่ล่องตามลำธาร มีการเดินทางแบบครึ่งวันและ 1 วัน
3.ชิมันโตะราคูชา (ระยะทางประมาณ 7.4 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
เป็นสถานที่พักที่สร้างใหม่จากหอโรงเรียนเก่า สามารถเลือกพักได้ตั้งแต่ห้องประกาศจนถึงห้องผู้อำนวยการโรงเรียน
4.ภัตตาคารบ้านเกษตร SHAENJIRI (ระยะทางประมาณ 5.6 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
มีเมนูอาหารให้เลือกสิบกว่ารายการตามวัสดุอาหารในฤดู และเป็นอาหารเพื่อสุขภาพแสนอร่อยในรูปแบบบุฟเฟ่ต์
5.เรือแคนูชิมันโตะและหมู่บ้านแห่งแคมปิ้ง KAWARAKKO (ระยะทางประมาณ 13.3 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
ให้บริการกิจกรรมบนแม่น้ำ เช่น เรือแคนู และ SUP และยังมีโซนแคมปิ้ง บ้านไม้เล็กให้พักได้
6.รอยัลโฮเต็ลชิมันโตะแห่งใหม่ (ระยะทางประมาณ 15.2 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
เป็นโรงแรมในเมืองขนาดใหญ่ในเขตเมืองนะคะมูระ ภายในมีชินานามิออนเซ็น ช่วยให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางระยะไกลหมดไปในทันที
7.สถานีนะคะมูระ สมาคมการท่องเที่ยวเมืองชิมันโตะ (ระยะทางประมาณ 1.8 กิโลเมตรจากจุดก่อนหน้านี้)
สมาคมการท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ข้างทางเข้าของสถานี ให้ข้อมูลการท่องเที่ยวและการคมนาคมในท้องถิ่นอย่างครบถ้วน เดินทางสะดวก เหมาะสำหรับเป็นจุดเริ่มต้นของนักขี่ที่มากประสบการณ์
จุดท่องเที่ยวที่แนะนำให้แวะชมได้ :
ระหว่างเส้นทางจะผ่านสะพานใต้น้ำหลายจุด และยังมีเรือยาคาตะบุเนะที่พาเที่ยวแม่น้ำในบริเวณใกล้ ๆ เช่น "เรือยาคาตะบุเนะ Sakoya" ที่ ที่แล่นผ่าน "สะพานใต้น้ำซาดะ" ที่มีความยาวมากที่สุด "เรือยาคาตะบุเนะชิมันโตะมิโดริ" ที่ผ่าน "สะพานใต้น้ำซาดะ" และ "เรือยาคาตะบุเนะ Nattoku" ที่เล่นผ่าน "สะพานใต้น้ำทาคาเซะ" เป็นต้น หลังจากผ่านสะพานใต้น้ำซาดะแล้วไปทางริมแม่น้ำจะผ่าน "เซนบะโรเมน" เพื่อสัมผัสเรือใบ ส่วน "ป่าอิริตะ" ที่ทอดยาวไปตามแนวเขื่อนประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีดอกคาโนลาสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ ส่วนดอกฮิกังบานะจะบานในฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปยังสถานีนะคะมูระจะผ่านแลนด์มาร์คของนะคะมูระ "สะพานแม่น้ำชิมันโตะ (สะพานเหล็กแดง)"
ระหว่างทางขี่จักรยานสามารถแวะพักได้ที่ "SHADE TREE COFFEE" ร้านกาแฟที่มาพร้อมทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำชิมันโตะ หรือไปชิมอาหารปลาไหลธรรมชาติแม่น้ำชิมันโตะที่ "SAKOYA"
กฎปฏิบัติ 4 ข้อสำหรับความปลอดภัยในการขี่จักรยาน
ในยามที่เพลิดเพลินกับความสุขในการท่องเที่ยวด้วยจักรยานแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
1.จักรยานให้ขี่บนถนนเป็นหลัก ยกเว้นทางเท้าในบางพื้นที่
2.เมื่อขี่บนถนนจะต้อง "ขี่ชิดซ้าย"
3.บนทางเท้าจะต้องให้ความสำคัญแก่คนเดินเท้าเป็นอันดับแรก จะต้องขี่ชิดฝั่งถนน
4.ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยด้านจราจร :
ห้ามขับขี่ตอนเมา ขี่ซ้อนคู่ ขี่คู่กัน ต้องเปิดไฟตอนกลางคืน ปฏิบัติตาสัญญาณไฟตรงทางแยก และหยุดรถชั่วคราวที่ยืนยันความปลอดภัย
1.จักรยานให้ขี่บนถนนเป็นหลัก ยกเว้นทางเท้าในบางพื้นที่
2.เมื่อขี่บนถนนจะต้อง "ขี่ชิดซ้าย"
3.บนทางเท้าจะต้องให้ความสำคัญแก่คนเดินเท้าเป็นอันดับแรก จะต้องขี่ชิดฝั่งถนน
4.ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยด้านจราจร :
ห้ามขับขี่ตอนเมา ขี่ซ้อนคู่ ขี่คู่กัน ต้องเปิดไฟตอนกลางคืน ปฏิบัติตาสัญญาณไฟตรงทางแยก และหยุดรถชั่วคราวที่ยืนยันความปลอดภัย
