ค้นพบมุโระโตะอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก

มุโระโตะอยู่ที่ส่วนปลายสุดทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดโคจิ ที่ซึ่งแผ่นดินและทะเลมาบรรจบกันที่ชายฝั่งขรุขระ เต็มไปด้วยกลุ่มหินรูปร่างประหลาดขนาดมโหฬาร ซึ่งถูกสร้างจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก นอกจากการสำรวจเส้นทางชายฝั่งแล้ว คุณยังสามารถผ่อนคลายในบ่อไอน้ำของน้ำทะเลลึก ชิมปลาที่จับในท้องถิ่น และสำรวจดูจุดสำคัญบางแห่งในเส้นทางแสวงบุญที่วัดทั้ง 88 แห่งของชิโกกุ

เกี่ยวกับมุโระโตะอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก

อุทยานธรณีโลกของยูเนสโก คือพื้นที่รวมซึ่งมีมรดกทางธรณีวิทยาที่สำคัญที่จัดการด้วยแนวคิดองค์รวมของการปกป้อง การให้ความรู้ และการพัฒนาที่ยั่งยืน

เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณ 50 ล้านถึง 16 ล้านปีก่อน ตะกอนบนพื้นมหาสมุทรแปซิฟิกได้สร้างแผ่นดินใหม่ขึ้นมา โดยการดันตัวขึ้นสู่พื้นผิวผ่านการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกของแผ่นมหาสมุทรและแผ่นทวีป ที่มุโระโตะ คุณสามารถสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาที่น่าทึ่ง (และยังดำเนินอยู่) ของเปลือกโลกได้อย่างใกล้ชิด สำหรับในบริเวณที่กำหนดเป็นอุทยานธรณีโลกในปี 2554

ที่มุโระโตะอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก คุณสามารถเห็นการก่อตัวที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวของโลก ตะกอนและฟอสซิลอันมีค่า รวมทั้งพืชและสัตว์ที่ถูกกำหนดเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของประเทศ

มุโระโตะยังเต็มไปด้วยสถานที่ซึ่งเชื่อมโยงกับ พระคูไค ซึ่งรู้จักในอีกชื่อว่า โคโบไดชิ นอกจากท่านจะก่อตั้งนิกายชินกอนของศาสนาพุทธแล้ว คูไคยังเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการแสวงบุญที่วัดทั้ง 88 แห่งของชิโกกุ (หรือ โอะเฮนโระ) ซึ่งรายล้อมอยู่รอบเกาะชิโกกุ

ทำความรู้จักกับเส้นทางของมุโระโตะเซไกจีโอพาร์กเซนเตอร์

ก่อนที่จะมุ่งหน้าออกไปสำรวจ แวะไปที่มุโระโตะเซไกจีโอพาร์กเซนเตอร์เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับมุโระโตะ หยิบแผนที่หรือสอบถามพนักงานสำหรับเคล็ดลับในการเดินทางภายในอุทยานธรณี เรียนรู้เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม พืชเขตร้อน ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมซึ่งถูกรักษาอย่างเป็นองค์รวมในอุทยานธรณีจากบอร์ดจัดแสดง แบบจำลองสามมิติ และวิดีโอ

ธรณีวิทยาที่มีชีวิตของแหลมมุโระโตะ

แหลมมุโระโตะที่ปลายคาบสมุทรมุโระโตะซึ่งยื่นออกไปยังมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นทรงสามเหลี่ยม เมื่อเดินบนทางเดินริมทะเลรันโชซึ่งทอดยาวไปตามชายฝั่งเป็นระยะทาง 2.6 กม. คุณจะได้เห็นหินที่ก่อตัวขึ้นจากแม็กม่าที่แข็งตัว และพื้นซึ่งเคยเป็นก้นมหาสมุทรลึกเมื่อประมาณ 16 ล้านปีก่อน การยกตัวที่น่าทึ่งตามแนวชายฝั่งคือส่วนที่ถูกดันขึ้นจากการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ และในความเป็นจริงนั้นชายฝั่งยังคงยกตัวขึ้นอยู่โดยตลอดสองถึงสามเซนติเมตรทุกปี ซึ่งถือเป็นอัตราการยกตัวขึ้นที่เร็วที่สุดในโลกอีกประเภทหนึ่ง ในระหว่างที่คุณสำรวจก็อย่าลืมคอยมองหา:

●หินคูไค
กลุ่มหินขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนใบหน้าคนเมื่อมองจากด้านข้าง ชื่อนั้นมีความเชื่อมโยงกับพระคูไคซึ่งผู้คนคิดว่าได้ฝึกบำเพ็ญตนอยู่แถวนี้เพื่อให้ตรัสรู้

●ตะกอนกระแสความขุ่น
คุณต้องไม่พลาดชมกลุ่มหินที่มีลายแถบที่เด่นชัดเหล่านี้ ความแตกต่างของลายแถบนั้นเกิดขึ้นที่ใต้มหาสมุทร จากส่วนผสมของทรายและโคลนที่ทับซ้อนกัน ก่อนที่จะถูกดันขึ้นมาจากมหาสมุทรและบิดรูปด้วยความเคลื่อนไหวของเปลือกโลก

●หอสังเกตการณ์แหลมมุโระโตะ
ซึ่งคุณสามารถเห็นได้ทั้งในชายฝั่งตะวันออกและชายฝั่งตะวันตกของแหลมมุโระโตะ จึงทำให้กลายเป็นจุดยอดนิยมของเหล่าช่างภาพที่ต้องการถ่ายภาพอาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกแบบดารุมะ เมื่อดวงอาทิตย์เข้าใกล้ขอบน้ำ ปรากฏการณ์ภาพลวงตาจะทำให้ดวงอาทิตย์ดูราวกับตุ๊กตาดารุมะกลมที่ยื่นหัวออกมาเหนือขอบฟ้า

ที่นี่มีไกด์ทัวร์สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับกลุ่มหิน พืชท้องถิ่น ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมุโระโตะ

แหลมมุโระโตะและการแสวงบุญที่วัดทั้ง 88 แห่งของชิโกกุ

แหลมมุโระโตะมีความเชื่อมโยงที่สำคัญกับพระคูไคผู้ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการแสวงบุญที่วัดทั้ง 88 แห่งของชิโกกุในระยะทาง 1,200 กม. เพราะว่ากันว่านี่เป็นสถานที่ที่ท่านได้ตรัสรู้ คุณจะสามารถเห็นถ้ำมิคุโระโดะที่ว่ากันว่าท่านเคยมาฝึกตน ตัวถ้ำนั้นถูกสลักสรรค์สร้างด้วยพลังของคลื่น และว่ากันว่าทิวทัศน์ของท้องฟ้าและมหาสมุทรจากภายในถ้ำนั้นคือแรงบันดาลใจเบื้องหลังของชื่อที่ท่านเลือก เพราะตัวอักษรคันจิของชื่อ คูไค มีหมายความว่า “ท้องฟ้า” และ “ทะเล” ถ้ำชินเมคุทสึที่อยู่ใกล้ๆ คือที่ซึ่งท่านได้ตรัสรู้

วัดโฮทสึมิซะคิจิ จุดแวะพักที่ 24 ของเส้นทางแสวงบุญนี้อยู่ใกล้กับเนินที่ยื่นไปในทะเลเหนือประภาคารแหลมมุโระโตะพอดี อย่าลืมเคาะหินใหญ่ที่มีรูกลวงเล็กๆ ซึ่งให้เสียงใสอันไพเราะ

ประภาคารแหลมมุโระโตะ

ประภาคารสีขาวนี้ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 151 ม. ที่ปลายแหลมมุโระโตะซึ่งหันออกไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก โดยทำหน้าที่ปกป้องบรรดาเรือที่เดินทางในน้ำรอบแหลมมุโระโตะมาตั้งแต่เมื่อครั้งที่สร้างเสร็จในปี 2442 ประภาคารนี้เป็นประภาคารเหล็กที่เก่าแก่เป็นอันดับที่สองของญี่ปุ่น และเลนส์ของมันคือของที่มีค่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์อีกอย่างหนึ่ง ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.6 ม. ที่แสงของประภาคารส่องได้ไกลถึง 49 กม.

น้ำทะเลลึก

ต้องขอบคุณปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาในบริเวณนี้ที่ทำให้น้ำทะเลลึกจากส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรลอยขึ้นมาใกล้กับผิวน้ำที่ชายฝั่งของมุโระโตะ ตัวน้ำนั้นถูกดึงขึ้นมาจากความลึกที่แสงแดดส่องไปไม่ถึงและมีความบริสุทธิ์มาก น้ำทะเลลึกมีองค์ประกอบของแร่ธาตุที่สมดุล และสามารถนำไปใช้ได้หลายวิธี

●ซีเรสมุโระโตะ
อีกหนึ่งวิธีที่เพลิดเพลินที่สุดสำหรับการสัมผัสกับประสบการณ์น้ำทะเลลึกคือการลงไปว่าย! สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายฝั่ง ซีเรสมุโระโตะ คือ ศูนย์สุขภาพและการบำบัดด้วยน้ำทะเล โดยจะใช้น้ำทะเลลึกของมุโระโตะในบ่ออุ่นของตน (ซึ่งตั้งอุณหภูมิพอเหมาะอยู่ที่ 34 องศาเซลเซียส) ในจากุซซี่กลางแจ้งและในซาวน่าแบบฟินแลนด์ แรงดันน้ำที่ทรงพลังนั้นดีและยอดเยี่ยมเป็นพิเศษสำหรับการนวดกล้ามเนื้อที่อ่อนล้า ถ้าคุณไม่มีชุดอาบน้ำ คุณสามารถเช่าได้ที่ศูนย์ ถ้าคุณรู้สึกไม่อยากว่ายน้ำ ที่นั่นยังมีให้บริการบ่อแช่เท้าจากน้ำทะเลลึกฟรีที่ด้านนอก

ที่อยู่: 3795-1 Murotomisaki-cho, Muroto City
โทรศัพท์: 0887-22-6610
เวลาทำการ: 10:00-21:00 น.
วันหยุด: วันพุธที่ 2 และที่ 4 ของเดือน
ค่าเข้า: บ่อ/ซาวน่า/อาบน้ำ 1,300 เยน

●น้ำทะเลลึกมุโระโตะ อะควอฟาร์ม
สถานที่แห่งนี้รวบรวมและจัดหาน้ำทะเลลึก มีการจัดแสดงข้อมูลและวิดีโอ เพื่อให้คุณได้ค้นพบทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรอันมีค่านี้ นอกจากนี้พวกเขายังขายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส และของหวานที่ทำจากน้ำทะเลลึกเช่นกัน

ที่อยู่: 3507-1 Murotomisaki-cho, Muroto City
โทรศัพท์: 0887-24-2822
เวลาทำการ: 9:00-17:00 น.
วันหยุด: วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ค่าเข้า: ฟรี

สิ่งอื่นที่น่าสนใจในมุโระโตะ

หลังสำรวจความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของแหลมมุโระโตะแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่น่าดูอื่นๆ อีก มาดูพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำท้องถิ่น (ตั้งอยู่ในสถานที่ซึ่งเคยเป็นโรงเรียนมาก่อน!) หรือพบกับโลมาขี้เล่นกัน และในมื้อกลางวันมาลิ้มลองของพิเศษท้องถิ่น ข้าวหน้าปลาดิบปลาคินเมะได (ปลากะพงแดงตาโต) ที่เพิ่งจับสดๆ

●พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมุโรโตะไฮโค
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนี้อยู่ในโรงเรียนประถมเก่าที่ปรับปรุงใหม่ โดยที่นี่จะจัดแสดงสิ่งมีชีวิตทางทะเลท้องถิ่นในแท็งค์น้ำที่ตั้งขึ้นในบริเวณซึ่งเคยเป็นห้องเรียนมาก่อน ส่วนสระที่ครั้งหนึ่งเคยถูกใช้โดยเหล่านักเรียนชั้นประถมสำหรับการเรียนว่ายน้ำในตอนนี้ได้กลายเป็นที่อยู่ของเหล่าเพื่อนมีครีบ รวมทั้งเต่าทะเล และฉลามตัวเล็กแล้ว
ด้วยความรู้สึกแบบโรงเรียนที่ยังคงอยู่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมุโรโตะไฮโคจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในแบบฉบับฉพาะตัวเพียงหนึ่งเดียวในโลก!

●มุโระโตะดอลฟินเซนเตอร์
คุณสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับโลมาได้ที่ศูนย์นี้ มาดูโลมาในระยะใกล้ๆ และเข้าร่วมกิจกรรมที่คุณสามารถสัมผัส ให้อาหาร หรือกระทั่งว่ายน้ำไปกับโลมาได้

●อาหารมุโรโตะ
อย่าลืมลิ้มลองอาหารที่มีของขึ้นชื่อของท้องถิ่นอย่างปลาน้ำลึกสีแดงสดที่มีชื่อว่า ปลาคินเมะได (ปลากะพงแดงตาโต) บริเวณมุโระโตะเป็นบริเวณที่จับปลาอันล้ำค่านี้ได้มากที่สุดในญี่ปุ่นตะวันตก และเนื่องจากมีท่าเรืออยู่ใกล้ๆ คุณจึงสามารถเพลิดเพลินไปกับคินเมะไดที่สดที่สุดในประเทศได้ที่มุโระโตะแห่งนี้ หนึ่งในการเสิร์ฟที่ได้รับความนิยมที่สุด คือ ชามข้าวที่มีหน้าเป็นปลาคินเมะไดแบบจัดเต็ม ทั้งในแบบปลาดิบและในซอสเทริยากิ หรือบางครั้งก็จัดเข้าคู่มากับชิ้นปลาคัตสึโอะ (ปลาโอ) อาหารจานโปรดอีกอย่างหนึ่งของโคจิ

Ryotei Kagetsu
Kamameshi Hatsune