”ชิโกกุคาสต์” เส้นทางขับรถที่ได้ชื่นชมความงามของท้องฟ้าราวกับว่ามาอยู่ในเทือกเขาแอลป์ของสวิสเซอร์แลนด์

”ยูซันชินมันโต เซรันโนะซาโตะ” เป็นเรียวกังท้องถิ่นที่ตั้งอยู่บรีเวณต้นน้ำชิมันโต มีบุฟเฟต์อาหารกลางวันที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นในวันนั้นคอยให้บริการ
เวลาทำการวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เวลา 11:00-14:00 น. (รับออเดอร์สุดท้าย 13:30 น.) เราขอแนะนำให้มาช่วงกลางวันเพื่อรับประทานอาหารกลางวันไปพร้อมกับสัมผัสกับความงามของแม่น้ำชิมันโต

อาคารที่ได้รับการบูรณะมาจากบ้านเกิดของ โยชิมุระ โทระทาโร่หนึ่งใน ”สี่ราชาแห่งสวรรค์ของโทสะ” ร่วมกับซากาโมโตะ เรียวมะ บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นในช่วงสมัยเอโดะ สถานที่แห่งนี้ได้มีการแนะนำอัตชีวประวัติของโทระทาโร่ผ่านการเล่าเรื่องและวิดีโอ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในละแวกนั้น ซึ่งเป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่ทำให้คุณสามารถเห็นทัศนียภาพดั้งเดิมของโคจิได้ และในบางครั้งจะมีการจัดกิจกรรมในโอกาสต่างๆ รวมถึงในเป็นสถานที่พักผ่อน

สะพานฮายาเสะโนะอิปปง เป็นสะพานทรุดเพียงแห่งเดียวที่หลงเหลืออยู่ โดยปลายด้านหนึ่งของสะพานได้จะยึดด้วยเชือกกับกระดานไม้และแขวนไว้เหนือฐานสะพานที่เหลืออยู่ เมื่อกระแสน้ำขึ้นมันจะถูกพัดออกไปจากฐานสะพาน และเนื่องจากไม้มันลอยอยู่บนน้ำ จึงถูกเรียกอีกชื่อนึงว่า ”สะพานไหล”

"คาเฟ่ โนกะโชคุโด อิโช โนกิ" คาเฟ่ที่ดำเนินการโดยเหล่าแม่บ้านในท้องถิ่น โดยใช้พื้นที่โรงเรียนประถมร้างมาพัฒนาเป็นคาเฟ่ ที่ให้บริการอาหารเพื่อสุขภาพหลากหลายเมนูที่ล้วนแล้วทำมาจากผักที่เก็บสดๆ ในพื้นที่นั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูเทมปุระผักที่ขึ้นชื่อกับรสชาติอุมามิของผักโดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม และการต้อนรับอย่างอบอุ่นของสมาคมแม่บ้านในบริเวณนั้น ในบริเวณร้านอาหารจะมีต้นแปะก๊วยที่กลายเป็นเหมือนพรมสีทองในฤดูใบไม้ร่วงซึ่งให้ความรู้สึกผ่อนคลาย (หมายเหตุ: เมนูอาหารกลางวันต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน)

ที่ราบสูงเทนกูของชิโกกุคาสต์ คือ หน้าพื้นของภูเขาที่แผ่ขยายออกไปเป็นคลื่นชั้นอย่างอ่อนโยนอันประกอบด้วยกลุ่มกองหินปูนที่กินพื้นที่ถึง 25 กม. ของเกาะชิโกกุ ซึ่งรู้จักกันว่าเป็นคาสต์ (เขาหินปูน) หนึ่งใน 3 อันดับแรกของประเทศญี่ปุ่น ที่ราบสูงนี้มีจุดสูงสุดเหนือระดับน้ำทะเลที่ 1,485 เมตร พร้อมด้วยทิวทัศน์รอบด้านที่ทอดยาวไปสุดขอบฟ้า ในวันที่ปลอดโปร่งสามารถมองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิกส่องประกายระยิบระยับจากทางทิศใต้ และยอดเขาหยักของทิวเขาอิชิซุจิได้จากทางทิศเหนือ
ถนนสาย 383 ซึ่งคดเคี้ยวผ่านคาสต์ และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในถนน 100 สายที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นนั้นยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "天空の道" (ถนนบนผืนฟ้า) เพราะเมฆนั้นอยู่ใกล้จนเกือบสัมผัสได้ และปรากฏดาวนับล้านดวงอยู่บนฟ้านั้นในยามค่ำคืน ฤดูกาลเปลี่ยนให้ทุ่งหญ้าเขียวขจีของฤดูใบไม้ผลิแทนที่ด้วยพืชพรรณภูเขาในฤดูร้อน และกลายกลับเป็นใบไม้หลากสีก่อนที่ภูมิทัศน์นั้นจะผลัดสู่ดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะ
ผู้มาเยี่ยมชมที่โชคดีอาจได้เห็นโคนมเล็มหญ้าอย่างสบายอารมณ์อยู่ที่เนินเขา ลองหาเวลาไปในเส้นทางเดินสำหรับการดื่มด่ำไปกับ "ชินรินโยคุ" หรือการอาบป่าเพื่อซึมซับประสบการณ์ความเงียบสงบและฟื้นฟูจิตใจดูสิ

""ที่ราบสูงเท็นงู"" ทิวทัศน์ยอดเยี่ยมที่เมืองสึโนะภาคภูมิใจที่สุด เป็นส่วนหนึ่งของชิโกคุคาสต์ มีทิวทัศน์สวยงามน่าทึ่งเหมือนกับเทือกเขาแอลป์ ปัจจุบันได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายเข้ามาเยี่ยมชมด้วยความเขียวขจีในต้นฤดูร้อน การหลบร้อนในช่วงฤดูร้อน เมเปิ้ลแดงในฤดูใบไม้ร่วง การเล่นหิมะในฤดูหนาว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้เพิ่มเติม ""ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแสนงดงาม"" ซึ่งกลายเป็นสถานที่ชมดาวที่ขึ้นชื่อในจังหวัด

""เท็นงูโซ"" ซึ่งเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกด้านที่พักอาศัยบนที่ราบสูงเท็นงู ได้ระมัดระวังในเรื่องมลภาวะแสงเป็นพิเศษ ทำให้หมู่ดาวบนท้องฟ้าเหมือนอยู่ต่อหน้า เป็นจุดชมดาวที่นิยมในจังหวัด เท็นงูโซได้ยกระดับการตกแต่งภายในด้วยหัวข้อ ""การชมดาว"" และเปิดให้บริการอีกครั้งภายใต้ชื่อ ""TENGU หมู่บ้านแห่งดาวตก"" ในกรกฎาคม พ.ศ. 2564 มีท้องฟ้าจำลองที่สามารถให้สภาพแวดล้อมในการชมดาวที่ยอดเยี่ยมที่สุดแก่นักท่องเที่ยวภายใต้สภาพอากาศต่าง ๆ รูปแบบห้องชมดาวที่มีหลังคากระจกและหอดูดาวใหม่ล่าสุด

มาถึงที่นี่อย่าลืมชิม ""ข้าวหน้าเนื้อโทะสะ"" ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นเลิศรสและ ""ไดฟูกุชาคั่วดาวเต็มฟ้า"" ที่ผลิตจากใบชาของเมืองสึโนะ!

ยอดเขาที่สูงที่สุดของชิโกกุคาสต์ คือ "เท็งกุโนะโมริ" ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของที่ราบสูงเท็งกุ ภายในนั้นจะประกอบไปด้วย "เทอราพีโร้ด ป่าเท็งกุโคเก็น" ที่เปรียบเสมือนอีกโลกนึงที่เต็มไปด้วยป่าที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลแตกต่างจากทุ่งหญ้าบนยอดเขา ซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นไซเปรสฮิโนกิ และ กลิ่นจากไฟทอนไซที่มาจากต้นไม้ส่งกลิ่นหอมตามธรรมชาติตลอดการเดินทาง โดยระหว่างการเดินทางนั้นกลิ่นหอมจะช่วยบรรเทาความรู้สึกปวดหลังและขาได้ด้วย สถานที่แห่งนี้ถือเป็นเส้นทางไฮกิ้งที่ได้รับความนิยมของจังหวัดโคจิ เนื่องจากความเขียวขจีของต้นไม้ตลอดฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อน ตลอดจนต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง