ประสบการณ์เก็บผลไม้ 4 ฤดูกาลในจังหวัดโคจิ

ทางเหนือของจังหวัดโคจิมีเทือกเขาชิโกะกุและทางใต้ติดกับเขตมหาสมุทรแปซิฟิก มีอัตราส่วนของพื้นที่ป่าอันดับ 1 ของญี่ปุ่นที่สูงถึง 84% ภูเขาและสายน้ำที่อุดมสมบูรณ์ก่อเกิดลำธารใสที่นับไม่ถ้วน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากตำแหน่งที่ตั้งและสภาพทางภูมิศาสตร์ จึงมีสภาพอากาศที่อบอุ่นที่เรียกได้ว่าเป็น "ประเทศทางใต้" ด้วยผลประโยชน์จากเวลากลางวันที่นาน ปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้จังหวัดโคจิมีปริมาณผลผลิตและคุณภาพทางการเกษตรหลากหลายชนิดที่ถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ยิ่งกว่านั้นยังมีฉายาของจังหวัดแห่งเกษตรกรรม นอกจากผักชนิดต่าง ๆ แล้ว ผลไม้ที่ออกตามฤดูกาลก็ไม่พลาดอย่างเด็ดขาด
เมื่อกล่าวถึงผลไม้ของจังหวัดโคจิ ย่อมต้องพูดถึง "ส้มโอ" ที่มีผลผลิตอันดับ 1 ในญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีผลไม้ที่มีรสชาติแสนอร่อยที่นับไม่ถ้วน เช่น สตรอว์เบอร์รี องุ่น ส้ม การเพาะปลูกเลือกใช้วิธีแบบเปิดกลางแจ้งหรือเรือนกระจกตามสภาพแวดล้อมการเจริญเติบโตที่เหมาะสม มีสวนหลายแห่งได้เปิดให้สัมผัสกิจกรรมเก็บผลไม้ สัมผัสความสนุกในการเก็บผลไม้พร้อมกับชิมรสชาติที่แสนอร่อยของผลไม้อีกด้วย ในบทความนี้จะเป็นการแนะนำสวนผลไม้ตามผลไม้ที่เก็บ เพื่อน ๆ ที่ชื่นชอบผลไม้สามารถพิจารณาเพิ่มเติม

Responsive Image

สวนผลไม้ทานไม่อั้นแบบจำกัดเวลา ในฤดูกาลสตรอว์เบอร์รีช่วงมกราคมถึงมิถุนายน

มกราคม〜มิถุนายนของทุกปีเป็นฤดูกาลสตรอว์เบอร์รีของโคจิ สวนผลไม้ดังต่อไปนี้จะให้เปิดให้เก็บผลไม้และทานไม่อั้นแบบจำกัดเวลา สามารถชิมรสชาติอร่อยของสตรอว์เบอร์รีในฤดูกาลอย่างเต็มที่

สวนผลไม้นิชิจิมะ :
ตั้งอยู่ในเมืองนันโกกุที่เป็นแหล่งเกษตรกรรมสำคัญ มีพื้นที่ที่สูงถึง 6 เฮกตาร์ มีลานจอดรถที่ตกแต่งด้วยแตงโมขนาดใหญ่เป็นตัวบ่งชี้ เมื่อเดินเข้าไปในเรือนกระจกจะมองเห็นเฟื่องฟ้าสีชมพูและสีขาวเต็มไปหมด ในบริเวณสวนมีเรือนกระจกมากถึง 10 แห่ง ผลไม้ที่เพาะปลูกจะมีสตรอว์เบอร์รีเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีเมลอน มะม่วง มะเขือเทศตามฤดูกาลอีกด้วย เป็นสวนสนุกแห่งดอกไม้และผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโคจิ พันธุ์ของสตรอว์เบอร์รีหลักจะเป็น "ซาชิโนะกะ" และ "เบนิโฮเปะ" ที่มีรสหวานและฉ่ำ สตรอว์เบอร์รีในเรือนกระจกให้ผลขนาดใหญ่และสีแดงสดทุกลูก เรียกได้ว่าคุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่สามารถใช้เป็นของฝากได้ มีบริการให้เก็บทานได้ทันทีช่างคุ้มค่าจริง ๆ จิ้มทานพร้อมกับนมข้นหวานยิ่งทำให้หวานชื่นทวีคูณ ผู้ที่ชื่นชอบสตรอว์เบอร์รีห้ามพลาดเด็ดขาด

"ร้านกาแฟสตรอว์เบอร์รี" ในสวนมีบริการของหวานและเครื่องดื่มของว่างที่ทำจากผลไม้ที่ปลูกเอง รายการเมนูยอดนิยมได้แก่ ผลไม้ซันเดย์ "หางของเมลอน"(หั่นเมลอนผสมกับไอศกรีมวานิลลา) จานผลไม้เมลอนแตงโม (ผลไม้รวม) เป็นต้น อยากทานของหวานอย่างสบายอารมณ์หรือชิมสตรอว์เบอร์รีเก็บสดจนอิ่ม สามารถตอบสนองกับความต้องการของทุกคน

สิงหาคมถึงต้นเดือนตุลาคม สนุกสนานกับการเก็บองุ่น

สิงหาคมเป็นต้นไปจะเป็นฤดูกาลขององุ่น ทั่วญี่ปุ่นมีพันธุ์องุ่นมากกว่า 60 ชนิดขึ้นไป สวนองุ่นของจังหวัดโคจิได้เพาะปลูกพันธุ์องุ่นหลากหลายชนิด ในช่วงนี้จะแนะนำสวนผลไม้ที่สามารถเก็บองุ่นพันธุ์ต่าง ๆ ได้ในครั้งเดียว ฤดูกาลเก็บเกี่ยวอาจยาวถึงตุลาคมตามพันธุ์องุ่นที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับการวางแผนในช่วงฤดูร้อนและใบไม้ร่วง

สวนองุ่นฮิระโอะกะ : (คำนวณราคาตามน้ำหนัก)
สวนองุ่นที่ตั้งอยู่ที่เมืองซุคุโมะที่เป็นเมืองเล็ก ๆ ริมทะเลที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโคจิ นอกเหนือจากมีการปลูกสายพันธุ์องุ่นหลัก 3 สายพันธุ์ได้แก่ องุ่นพีโอเน่สีเข้ม องุ่นราชินีนี่น่าและองุ่นไชน์มัสกัตสีเขียวแล้ว ยังมีองุ่นทาคัตสึมะและอื่น ๆ ที่สูงถึง 20 สายพันธุ์ เนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ องุ่นทั้งหมดของสวนองุ่นฮิระโอะกะได้เติบโตภายใต้ลมทะเลของเขตพื้นที่ซุคุโมะ ทำให้ "องุ่นลมทะเล" ของที่นี่มีรสชาติหวานเข้มข้นที่แตกต่างกับที่อื่น นอกจากนี้ยังมีองุ่นที่ทั้งลูกใหญ่ทั้งหวานที่เพาะปลูกโดย "วิธีการเพาะปลูกด้วยสารสกัดจากแบคทีเรียกรดแลคติค" ที่วิจัยพัฒนาขึ้นด้วยตนเอง นอกจากมีระยะเวลาในการจัดเก็บที่สูงกว่าองุ่นอื่น ๆ แล้ว ด้วยการควบคุมจำนวนครั้งในการฆ่าเชื้ออย่างเต็มที่ ทำให้ไม่พบสารเคมีการเกษตรตกค้างอยู่ข้างใน เคยได้รับผลงานอันดับ 2 ในงานประชุมสุดยอดนักชิมผักผลไม้ประจำปี พ.ศ.2556

สวนเกษตรเชิงท่องเที่ยว Wahhahha! : (คำนวณราคาตามน้ำหนัก)
สวนเกษตรกว้างใหญ่ที่มีพื้นที่ 60 อาเคอร์ที่ตั้งอยู่เมืองโอสึคิทางตะวันตกของโคจิ จัดตั้งเรือนกระจกองุ่น 16 แห่ง เพาะปลูกองุ่นพีโอเน่และองุ่นไชน์มัสกัตที่สามารถทานพร้อมเปลือกได้ พันธุ์องุ่นหลักที่ปลูกได้แก่ "องุ่นไชน์มัสกัต" ที่มีรสชาติหอมหวานสง่างามและสามารถทานได้พร้อมเปลือก "ยูโฮ" ที่มีความหวานและสดชื่นน้ำฉ่ำ "องุ่นพีโอเน่" ที่มีความหวานและความเปรี้ยวที่เหมาะสม "ราชินีนี่น่า" ที่มีรสหวานเข้มข้นติดปากไปยาวนานและสายพันธุ์อื่น ๆ อีก 15 ชนิด ร้านกาแฟ "ไม้แห่งองุ่น" ที่ตั้งอยู่ข้างสวน ให้บริการเครื่องดื่มและของว่าง ขนมปังที่ทำเอง เค้กที่ทำเองและน้ำผลไม้คั้นสดองุ่นไชน์มัสคัต นอกจากนี้ในสวนยังมีแพ็คเกจ BBQ อีกด้วย

สวนเคียวโฮ : (พักสวนใน พ.ศ. 2566)
สวนองุ่นที่ตั้งอยู่ในเมืองนันโกกุ มีเปิดให้เก็บทานได้ทันที ในสวนจะเพาะปลูก 2 สายพันธุ์ ช่วงสิงหาคม〜กันยายนจะเป็น "พิงค์ เคียวโฮ เบนิอิซุ" ที่มีลักษณะภายนอกเป็นสีแดงสวยงาม เนื้อผลไม้นุ่มฉ่ำ และในตุลาคมจะเริ่มเก็บเกี่ยวองุ่นยอดนิยม "ยักษ์เซโตะ" ผลไม้ชูโรงของสวนที่มีขนาดใหญ่และหวานและไม่มีเมล็ด มีเปลือกบางสามารถทานได้โดยตรง โดยราคาในการเก็บของยักษ์เซโตะจะสูงกว่าพันธุ์อื่น ๆ
สามารถชมองุ่นแสนอร่อยได้ทั้งในฤดูร้อนและไม้ใบร่วง

กันยายนถึงพฤศจิกายน สนุกสนานกับการเก็บแอปเปิ้ลและสาลี่

ฤดูใบไม้ร่วงในช่วงกันยายนถึงพฤศจิกายน นอกเหนือจากองุ่นที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะเดียวกันยังเป็นเวลาออกผลของแอปเปิ้ลและสาลี่ จะทำการแนะนำสวนผลไม้ที่สามารถเก็บผลไม้ทั้งสองอย่างในจังหวัดโคจิ เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติแสนอร่อยของสาลี่และแอปเปิ้ลอย่างเต็มที่

สวนผลไม้ทสึจิโมะโตะ :
สวนแอปเปิ้ลและสาลี่ที่ตั้งอยู่ในเขตภูเขาเมืองซากะวะ ได้เพาะปลูกสาลี่ 4 ชนิด ได้แก่ "สาลี่โฮซุย" ที่มีรสผลไม้เปรี้ยวอ่อนนุ่มในรสหวาน "สาลี่อากิซึกิ" ที่มีรสหวานชัดเจนและรสเปรี้ยวเล็กน้อย "สาลี่ชินโกะ" ที่มีเนื้อผลไม้กรอบฉ่ำและรสเปรี้ยวหวานพอเหมาะ และ "โทะสะ โนะ เรียวมะ" ที่ทางสวนภาคภูมิใจที่สุดที่ชุ่มกรอบและหวานเต็มที่ อีกทั้งเมื่อสุกเต็มที่แล้ว ยังได้รสชาติที่ละเอียดนุ่มปากและหอมเข้มข้นราวกับลูกแพร์ ส่วนแอปเปิ้ลจะมีมากถึง 8〜9 สายพันธุ์ ได้แก่ "สึการุ" ที่มีเนื้อกรอบและหวานฉ่ำ "ฟูจิ" ที่ทั้งกรอบทั้งหอมหวาน ทั้งสาลี่และแอปเปิ้ลจะมีบริการให้เก็บทานจนอิ่ม เมื่ออยู่ในช่วงฤดูกาลออกผลที่ทับซ้อนกันสามารถชิมได้ทั้งสองอย่าง เนื่องจากไม่มีการใช้ปุ๋ยเคมีและสารกำจัดศัตรูพืชระหว่างการเพาะปลูก แต่จะใช้เชื้อแบคทีเรียบาซิลลัส ซับทีลีสที่มีมาตั้งแต่สมัย 100 ล้านกว่าปีก่อนและปุ๋ยที่มีส่วนผสมของแร่ธาตุกว่า 24 ชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย และเพาะปลูกด้วยวิธีอินทรีย์ทั้งหมด จึงสามารถรับประทานได้อย่างมั่นใจ และยังสามารถชิมน้ำผลไม้คั้นสดได้อีก

ตุลาคมถึงธันวาคม สนุกสนานกับการเก็บผลไม้ส้ม

ฤดูใบไม้ร่วงและหนาวในช่วงตุลาคมถึงธันวาคมจะเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลไม้ประเภทส้ม กิจกรรมเก็บเกี่ยวผลไม้ส้มค่อนข้างน้อยในไต้หวันและฮ่องกง ในช่วงนี้จะแนะนำสวนผลไม้ 3 แห่งในโคจิที่มุ่งเน้นการเก็บส้มและส้มโอเป็นหลัก แนะนำความสนุกในการเก็บผลไม้แม้อยู่ในฤดูใบไม้ร่วงและหนาว

【ส้มจีน】
สวนเก็บผลไม้เมืองโทะสะ โคจิ :
ตั้งอยู่กลางภูเขาของเมืองคากามิซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกส้มอันดับ 1 ของโคจิ สวนผลไม้กว้างใหญ่ที่มีพื้นที่ 8 เฮกตาร์ ได้ปลูกส้มอุนชิวประมาณ 18,000 ต้น โดยแบ่งเป็น "นิชินัน" ที่มีสีเหลืองเปลือกบางเนื้อฉ่ำ หอมหวานและมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย และ "โอคิทสึ" ที่เป็นพันธุ์ต้นฤดูกาล 2 ชนิด เป็นพันธุ์ผลไม้ลูกเล็กหอมหวานเนื้อฉ่ำเหมาะกับเก็บไปทานไป อีกทั้งต้นส้มค่อนข้างจะเตี้ย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก นักท่องเที่ยวที่นั่งวีลแชร์และผู้สูงอายุล้วนสามารถเก็บอย่างง่ายดาย เป็นแหล่งยอดนิยมสำหรับเพลิดเพลินกับส้มหวานที่มีเปลือกบางเนื้อแน่นฉ่ำรสชาติหอมหวาน

ฟาร์มโครอล ฟลุ๊ต โอทสีคิ :
ตั้งอยู่ในเขตภูเขาของเมืองโอสิกิที่อยู่ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของโคจิซึ่งมีปริมาณแสงแดดในกลางวันเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ภายในพื้นที่ 4.3 เฮกตาร์ของสวนได้ปลูกส้มอุนชิวประมาณ 12,000 ต้น เป็นการเพาะปลูกพันธุ์ "นิชินัน" และ "โอคิทสึ" เช่นกัน เนื่องจากในพื้นที่แห่งนี้มีแสงแดดที่เพียงพอแม้ในช่วงที่อากาศหนาวจัดก็ไม่มีหิมะตกหรือน้ำค้างแข็ง สามารถสุกบนต้นไม้โดยตรง ส้มที่มีรสชาติอร่อยที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่พัฒนาขึ้นมาเองนั้น จำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วหลังเปิดตัวในแต่ละปี แม้ระยะทางจะไกล แต่กลับมีมากเกือบ 6 พันคนที่เข้าเก็บผลไม้ทุกปี เป็นสวนผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง บ้านเกิดของเจ้าของฟาร์มจะอยู่ใกล้กับสถานที่ฝังศพบรรพบุรุษของซากาโมโตะ เรียวมะ ด้วยวาสนานี้จึงได้ตั้งชื่อส้มอุนชิวที่เพาะปลูกนั้นเป็น "ส้มหวานเรียวมะคังเคกิ"

【ส้มโอ】
โอคิตะออร์ชาร์ด : (ไม่มีทานไม่อั้น)
ตั้งอยู่บนภูเขาสูงของเมืองอากิ สวนผลไม้มีพื้นที่ 1.4 เฮกตาร์ ได้เพาะปลูก "ส้มโอโทะสะ" ผลไม้ตัวแทนในฤดูหนาวของโคจิ มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่รสชาติหวานราวกับน้ำผึ้ง เรียกได้ว่าเป็น "ราชาส้มแห่งโทะสะ" เนื้อผลไม้แสนอร่อยและน้ำผลไม้ที่ชุ่มฉ่ำ เป็นรสชาติที่ลืมไม่ลงหากได้รับประทานแค่ครั้งเดียว กิจกรรมเก็บส้มโอที่โอคิตะออร์ชาร์ดจัดขึ้นแบบจำกัดเวลาในธันวาคมของทุกปี สามารถเก็บส้มโอแสนอร่อยด้วยมือตนเองพร้อมกับชมทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงามของภูเขาสูง อีกทั้งยังสามารถเรียนรู้วิธีการเก็บและจำแนกส้มโอที่มีรสชาติอร่อยที่สุด หลังจากนั้นยังสามารถเลือกส้มโอ 3 ลูกเพื่อใช้เป็นของฝากกลับบ้านอีกด้วย

เปิดตัวเพิ่มเติม‧ประสบการณ์เก็บผลไม้ที่แทบไม่เคยพบเห็นในไต้หวัน

การปลูกบลูเบอร์รี่นั้นไม่ง่าย ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ด้วยการขนส่งระยะไกล ทำให้ความสดลดลงไป เวลาหาซื้อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่จะไม่อยู่ในสภาพที่สดใหม่แล้ว ถึงแม้จะมีการเพาะปลูกในไต้หวันและฮ่องกง แต่เนื่องจากค่อนข้างหายาก จึงยังไม่มีสวนผลไม้ที่เปิดให้เก็บทานได้ทันที ในช่วงนี้จะแนะนำสวนผลไม้บลูเบอร์รี่ขึ้นชื่อที่สามารถเก็บทานได้ทันทีที่ในโคจิ

*สวนเกษตรบลูเบอร์รี่ Yutorisuto :
สวนบลูเบอร์รี่ที่ตั้งอยู่ในเมืองโอโตโย ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ท่ามกลางภูเขาที่ล้อมรอบด้วยสภาพแวดล้อมธรรมอันอุดมสมบูรณ์จากเทือกเขาชิโกะกุ ส่วนใหญ่จะปลูก "บลูเบอร์รี่สายพันธุ์แร็บบิอาย" ที่มีรสชาติหวานชัดเจน และ "สายพันธุ์บลูเบอร์รี่ชะซันไฮพุชู" ที่มีรสหวานเปรี้ยวปานกลาง กลางเดือนกรกฎาคมจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมเป็นฤดูเก็บเกี่ยวบลูเบอร์รี่ และเปิดให้เก็บสดทานจนอิ่ม เพลิดเพลินเต็มที่ในเวลา 60 นาทีกับรสชาติแสนอร่อยจากบลูเบอร์รี่สุกท่ามกลางธรรมชาติ