พายเรือแคนูและคายัคในแม่น้ำอันบริสุทธิ์และมหาสมุทรแปซิฟิกของโคจิ

จังหวัดโคจิซึ่งทอดยาวเป็นแนวโค้งแคบจากตะวันออกสู่ตะวันตกข้ามผ่านช่วงล่างของชิโกกุนี้มีชายฝั่งซึ่งมีระยะทางมากกว่า 700 กม. ให้สำรวจ ตั้งแต่บริเวณหาดทรายสวยไปจนถึงหน้าผาชัน โคจิจะมอบทัศนียภาพของมหาสมุทรแปซิฟิกที่แตกต่างกันออกไป ทั้งยังมีแนวปะการังที่เฟื่องฟูในกระแสน้ำอุ่น และวาฬที่ว่ายเล่นอยู่นอกอ่าวในช่วงหนึ่งของปี

แต่แม่น้ำเองก็มีดีไม่แพ้กัน แม่น้ำชิมันโตะ แม่น้ำนิโยโดะ และแม่น้ำโยชิโนะต่างก็เป็นที่รู้จักกันในเรื่องผืนน้ำที่ใสและสะอาด ทำให้แม่น้ำทั้งสามสายนี้กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับการพายเรือแคนูหรือคายัค การล่องแก่ง และการว่ายน้ำ หุบเขาแม่น้ำที่ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาป่าสีเขียวขจีที่มีสะพานตอม่อชิงกะบาชิพาดผ่านเป็นครั้งคราว ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นดั่งสรวงสวรรค์ของธรรมชาติอันบริสุทธิ์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง

แม่น้ำชิมันโตะไหลเรื่อยเป็นระยะทางถึง 196 กม. ผ่านภูเขาที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ของจังหวัดโคจิทางด้านตะวันตก ซึ่งถูกขนาบข้างด้วยหมู่บ้านเล็กและบ้านไร่เป็นครั้งคราว น้ำที่อ่อนโยนตรงแถวปลายน้ำของแม่น้ำนั้นสงบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มาพายเรือแคนูเป็นครั้งแรก ในขณะที่ผู้ที่กำลังมองหากระแสน้ำเชี่ยวก็สามารถเดินทางไปตรงช่วงกลางน้ำได้เลย นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนสอนพายเรือแคนูมากมาย และผู้ให้บริการทัวร์ในบริเวณนั้นยังเสนอการเดินทางระยะสั้นให้กับผู้เล่นทุกระดับอีกด้วย การทัวร์ที่มีเส้นทางผ่านใต้สะพานชิงกะบาชิ (สะพานจมน้ำได้ ที่ไม่มีราวด้านข้าง) นั้นจะสนุกเป็นพิเศษ เพราะสะพานที่ไม่ธรรมดาเหล่านี้คือสัญลักษณ์ของบริเวณชิมันโตะ

คุณสามารถพายเรือแคนูที่นี่ได้ตลอดทั้งปี แต่ฤดูกาลที่ดีที่สุดคือในช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนกันยายนซึ่งจะมีน้ำอยู่ในระดับสูงสุด แม่น้ำชิมันโตะนั้นงดงามมากจนคุณอยากจะเก็บสถานที่แห่งนี้ทั้งหมดไว้แต่เพียงผู้เดียว!

แม่น้ำนิโยโดะนั้นขึ้นชื่อในเรื่องความใสของแม่น้ำไปทั่วญี่ปุ่น โดยสามารถเดินทางมาที่นี่ด้วยรถยนต์เพียง 30 นาทีจากใจกลางเมืองโคจิ แม้ว่าทัวร์แคนูที่ไม่ยากเกินไปสำหรับมือใหม่จะเปิดในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน แต่เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมแม่น้ำใสสายนี้แปรแปลี่ยนเป็นสีที่เรียกกันว่านิโยโดะบลูอันน่าอัศจรรย์นั้นคือในช่วงกลางเดือนสิงหาคมถึงกลางเดือนมกราคม พายเรือแคนูออกไปในแม่น้ำ แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนได้ลอยอยู่บนผืนไพลินเลยทีเดียว

ผิวน้ำใสของแม่น้ำนั้นราวกับเป็นกระจกที่สะท้อนภาพของท้องฟ้าและภูเขา ด้วยเพียงแค่เสียงของแม่น้ำและหมู่นกรอบตัวคุณ คุณจะลืมไปเลยว่าคุณไม่ได้อยู่ห่างจากตัวเมืองมาไกลมากนัก เช่นเดียวกับที่ชิมันโตะ ที่นี่เองก็มีสะพานชิงกะบาชิอยู่ทั่วไปตามเส้นทางของแม่น้ำนิโยโดะ เกิดเป็นทิวทัศน์เฉพาะตัวของโคจิ!

เกาะคาชิวะนั้นเป็นจุดดำน้ำหลักซึ่งตั้งอยู่ตรงบริเวณตะวันตกของจังหวัดโคจิและเชื่อมต่อกับคาบสมุทรโอทสึคิด้วยสะพาน ด้วยแนวปะการังขนาดใหญ่ที่มีปลาสายพันธุ์ต่างๆ ราว 1,000 ชนิด และน้ำสีเขียวมรกต คาชิวะนั้นจึงเป็นดั่งเกาะสวรรค์เขตร้อนเลยทีเดียว น้ำที่นี่ใสมากจนคุณสามารถมองเห็นลงไปถึงพื้นของมหาสมุทรได้เลย และคนจำนวนมากก็เลือกการพายเรือคายัคใสเพื่อใช้ประโยชน์จากความใสของน้ำในการดูปลาสีสันสดใสที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำทะเลเบื้องล่างทั้งหมด ด้วยบรรยากาศของเกาะที่ผ่อนคลายและทะเลสีฟ้าใส คุณจะต้องอยากมีกล้องติดมือสักตัวเพื่อเก็บภาพสถานที่พิเศษนี้ไว้อย่างแน่นอน

ให้บริการข้อมูลการท่องเที่ยวและแผ่นพับที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวเกาะคาชิวะ ซึ่งเปิดในเดือนกุมภาพันธ์ 2562

ด้วยชายฝั่งที่มีระยะทางถึง 700 กม. ที่หันเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกนี้ จังหวัดโคจิจึงมีจุดสำหรับพายเรือคายัคทะเลที่น่าประทับใจอยู่มากมาย!

ตรงบริเวณซูซากิซึ่งสามารถเดินทางมาโดยรถยนต์จากเมืองโคจิในเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมงนี้มีปากน้ำชายฝั่งที่เป็นหินแตกแขนงซึ่งเรียกว่าเรียร์ เป็นสถานที่น่าสนุกสำหรับการสำรวจด้วยคายัค และฝั่งตรงกันข้ามที่สามารถนั่งรถไฟมาในระยะเวลาสั้นๆ จากเมืองหลวงคือนะฮะริ สถานที่แห่งความภาคภูมิใจในเรื่องแนวปะการัง ซึ่งมีปะการังนานาพันธุ์ราว 70 ชนิดเลยทีเดียว